(23ต.ค.) เวลา 06.25 น. ที่สวนอัมพร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีบวงสรวง ทำบุญตักบาตร เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวาระ 100 ปี แห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) และผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ จากกระทรวง ต่างๆ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 06.45 พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสพราหมณ์ เป็นผู้กล่าวนำในการประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อถวายเครื่องสักการะ แด่องค์พระปิยมหาราช และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาติบ้านเมือง จากนั้น นายอภิสิทธิ์ คณะผู้บริหารกระทรวงต่างๆ และประชาชน ร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์ และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 100 รูป ก่อนที่จะเดินชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมา เวลา 07.45 น. นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ น.ส. นริศรา ชวาลตันพิพัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางมายังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5
สำหรับบรรยากาศ ในช่วงเช้าบริเวณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชน เข้าแถวทยอยนำพวงมาลา ดอกไม้พานพุ่ม มาถวายราชสักการะแด่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างไม่ขาดสาย พร้อมกันนี้ มีวงโยธวาทิต จากนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ร่วมเดินขบวนบรรเลงเพลงถวายราชสักการะ ตลอดเส้นทางลานพระราชวังดุสิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30 น. วันนี้ ที่หน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สนามโรงพิธีช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยพลตรีปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้นำเหล่าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา จำนวนกว่า 500 คน ร่วมวางพวงมาลาถวายสักการะหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันปิยมหาราช
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประธานในพิธีได้วางพวงมาลา ถวายความเคารพหน้าพระบรมรูปฯ และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะ พร้อมกล่าวประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯเพื่อเทิดพระเกียรติ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า หลังจากนั้น ประธานในพิธีได้ มอบรางวัล แก่ หน่วยงานที่ร่วมประกวดพวงมาลาในวันปิยมหาราช ทั้ง ประเภทสวยงาม และประเภทความคิด
สำหรับวันที่ 23 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการและภาคเอกชน นักเรียน ประชาชน จะมาร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน" ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้ อาทิ การเลิกทาส การปฎิรูประบบราชการ การสาธารณูปโภคการศึกษาการปกป้องประเทศ
ด้าน นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าฯจังหวัดอุทัยธานี นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนต่างๆกว่า 300 คน ร่วมประ กอบพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี
เพื่อรำลึกถึงวันคล้ายวันสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 ที่ผ่านมา และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระเมตตาคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าแก่ประเทศชาติ และประชาชนชาวไทย นานับปการ ทรงเป็นที่รักของประสพนิกรทั้งไทยและเทศ จึงได้มีการถวายราชมัญญานามพระองค์ท่านว่า พระปิยมหาราช พระราชกรณียกิจ ที่ทรงริเริ่มในอดีตได้ก่อคุณูปการ เป็นพื้นฐานต่อประเทศชาติ และ ประชาชนชาวไทยมาจวบจนปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ นำข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้าประชา ชนทำพิธีวางพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
โดยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกาศเลิกทาส จึงทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทยมาจวบจนทุกวันนี้ และในรัชสมัยของพระองค์สยามประเทศได้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สร้างความพัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ และด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า พระปิยมหาราช หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคมเป็นวันปิยมหาราช