ชวนนัดทีมกม.ปชป.ถก เตรียมเอกสารคำแถลงปิดคดียุบพรรค

ที่พรรคประชิปัตย์  เมื่อเวลา 10.30 น.  วันที่ 23 ต.ค. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความคืบหน้าในการดำเนินการว่า วันที่ 23 ตุลาคม ได้มีการประชุมคณะทีมกฎหมายชุดเล็ก มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน โดยในที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางการทำเอกสารคำแถลงปิดคดี ซึ่งเบื้องต้น นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ หัวหน้าทีมทนายต่อสู้คีดยุบพรรค ได้ยกร่างเอกสารมาจำนวน 108 หน้า ซึ่งค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ก็จะให้ทีมทนายความที่รับผิดชอบซักถามพยานคนใด ให้กลับไปทำในส่วนที่ได้ซักถามไว้เป็นเอกสาร เพื่อนำมารวบรวมเป็นคำแถลงปิดคดี และบ่ายวันที่ 26 ตุลาคม จะมีการประชุมทีมกฎหมายอีกครั้ง เพื่อสรุปการทำคำแถลงปิดคดี โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นเอกสารต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ถึงแม้ว่าศาลจะกำหนดให้ยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นเอกสารภายใน 30 วัน แต่ทางทีมกฎหมายได้เร่งรีบทำให้เสร็จก่อนกำหนด เพื่อทีมกฎหมายจะได้ลงพื้นที่ไปเยื่ยมเยือนและดูแลประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย

นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะบีบดุลยพินิจของศาลเป็นระยะและมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้น ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าจะมีการปล่อยคลิปออกมาเพิ่ม ความจริงในเรื่องนี้น่าจะยุติเรื่องตั้งแต่ชั้นของกกต. เนื่องจากก่อนหน้านี้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ลงนามเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 52 ว่า งบดุลการเงินของพรรคประชาธิปัตย์ถูกต้องครบถ้วน  แต่ต่อมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน กกต. จนทำให้ กกต.ต้องเปลี่ยนใจและเปลี่ยนความเห็น ก่อนที่จะส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต่อมาคนกลุ่มนี้ก็ใช้วิธีการเดิมว่า ถ้าไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นการกระทำ 2 มาตรฐาน แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแผนด้วยการใช้วิธีการปล่อยคลิป ซึ่งมีความพยายามเชื่อมโยงถึงประธานองคมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำลายสถาบันองคมนตรีและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขอยืนยันว่า คลิปดังกล่าวเป็นความเท็จที่ร้ายแรง

“ขณะนี้กลุ่มคนทุกสีเสื้อพยายามเรียกร้องความยุติธรรม แต่ความยุติธรรมที่เขาเรียกร้องเป็นความยุติธรรมที่เขาพอใจ อะไรที่เขาไม่พอใจก็ออกมาด่าออกมากดดัน  ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการ เช่นเดียวกับกระบวนการที่มีการอ้างว่า ถ้าได้เสียงเกินครึ่งจะนำคนที่อยู่ต่างถิ่นกลับมาประเทศไทยได้  โดยสิ่งนี้ก็ถือเป็นอีกแผนการหนึ่งเช่นกัน ส่วนแผนการที่สองคือ พยายามทำลายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นขบวนการต่อเนื่องและมีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยผลที่ได้จากการกระทำนี้ก็จะตกไปอยู่กับคนๆ นั้น”นายวิรัตน์กล่าว

นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญเองก็ตะลึงที่คนในของศาลแอบบันทึกภาพการสนทนาของศาลในห้องประชุมตุลาการ ซึ่งการกระทำเช่นนี้พวกตนคงทำไม่ได้ โดยคลิปดังกล่าว น่าจะมีการบันทึกก่อนวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่นายจตุพรแถลงออกมาว่า มีคลิปลับที่เตรียมนำออกมาเปิดเผย

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายของพรรค ออกมาระบุว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องให้กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย โดยโยงว่า เกี่ยวข้องกับการทำคลิปดังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีน้ำหนักและไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะทั้งนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  และนายจารุรนต์ ฉายแสง ที่ออกมาแถลงก่อนที่จะมีคลิปออกมาเผยแพร่ว่า พรรคประชาธิปัตยจะไม่ถูกยุบ เนื่องจากมีอำนาจพิเศษมาช่วยเหลือ จากนั้นก็มีคลิปออกมาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา จำนวน 5 ตอน โดยตอนที่ 1 เป็นภาพของประธานองคมนตรีและนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่เดินทางไปร่วมงานสัญญา ธรรมศักดิ์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งการทำคลิปดังกล่าวขึ้นเป็นการแสดง เพื่อโยงถึงองคมนตรีและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและเป็นความเท็จ ทำให้ประเทศได้รับความเสียหายและยังทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 14 (2) และ 16 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ส่วนคลิปที่ 2 เกิดวันที่ 7 ตุลาคม 53  โดยเป็นการพูดคุยระกว่างนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ กับนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรค

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะคลิปที่ 3-5 เป็นการแอบถ่ายการประชุมของตุลการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อหารือว่าจะเชิญนายอภิชาตมาเป็นพยานในคดีหรือไม่  ซึ่งพอนายพสิษฐ์รู้ว่า มีการหารือในประเด็นดังกล่าว จึงนำเรื่องนี้ไปบอกนางสดศรี สัตยธรรม กกต. เพื่อแจ้งให้ทราบ ก่อนที่นายพสิษฐ์จะให้นายวรวุฒิ นวโภคิน ไปนัดนายวิรัชมาหารือ จากนั้นก็มีการนำคลิปมาเรียงลำดับใหม่ โดยมีการบิดเบือนระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ฉะนั้นพรรเพื่อไทยอย่าปฏิเสธ เพราะพฤติการณ์ดังกล่าวโยงถึงพรรคเพื่อไทยชัดเจน ทั้งการกดดันศาลและประโยชน์ที่จะได้หากพรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ กรณีนี้จึงเป็นการออกมาให้ข้อมูลที่ต้องการให้เกิดความสับสนและบิดเบือนข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า เนื้อหาของคำแถลงปิดคดีมีอะไรบ้าง นายวิรัตน์ กล่าวว่า เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบคำถามของศาลใน 5 ประเด็น โดยแยกเป็นประเด็นข้อกฎหมาย 2 ประเด็น และข้อเท็จจริง 3 ประเด็น ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงใดเป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริงและควรให้สาธารณะรับรู้ อาทิ เอกสาร ร.227  ซึ่งเป็นเอกสารของ กกต. ที่ระบุความเห็นของนายอภิชาตที่ว่า ควรให้ยุติเรื่อง โดยไม่ต้องส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบบัญชีการเงินของพรรคประชาธิปัตย์ถูกต้องครบถ้วน  เมื่อนายอภิชาต มีความเห็นเช่นนี้แล้ว ทำให้ไม่สามารถส่งเรื่องดังกล่าวมาที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ที่ต้องส่งเรื่องมา เพราะมีแรงกดดัน จากกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้แถลงปิดคดีก็จะไปยืนยันตรงนี้ต่อศาล