ส่วนนายวีระ และ นายจักรภพ ถือครองหุ้นเท่าเดิมคนละ 100,000 หุ้น
วันที่ 15 มกราคม 2551 (รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯวันที่ 6 ก.พ.2551 นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกำกับสื่อของรัฐ) มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น 1 คนคือ นายจักรภพ เพ็ญแข ได้โอนหุ้น 100,000 หุ้นไปให้นายสุชาติ ประเสริฐศรี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 6 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้งหมด
วันที่ 11 กันยายน 2551 (รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯวันที่ 25 ก.ย.2551) มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นอีกครั้ง นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจาก 100,000 หุ้น เหลือ 20,000 หุ้น อีก 80,000 หุ้นได้โอนไปให้ นายนิรันดร์ แก่นยะมูล ทำให้นายนิรันดร์เพิ่มสัดส่วนจาก 115,000 หุ้น เป็น 195,000 หุ้น
วันที่ 6 กรกฎาคม 2552 (รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯวันที่ 22 ธ.ค.2551) บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ซึ่งมีนายวีระ เป็นกรรมการ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 40 ล้านบาท (จาก 50 ล้านบาทเป็น 90 ล้านบาท) แบ่งเป็น 400,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มีการกระจายให้ผู้ถือหุ้น 7 คน
นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า จาก 75,000 หุ้น เพิ่มเป็น 135,000 หุ้น
นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า จาก 75,000 หุ้น เพิ่มเป็น 135,000 หุ้น
นายสุชาติ ประเสริฐศรี จาก 100,000 หุ้น เพิ่มเป็น 180,000 หุ้น
นายวีระ มุสิกพงศ์ จาก 20,000 หุ้น เพิ่มเป็น 36,000 หุ้น
นายนิรันดร์ แก่นยะมูล 195,000 หุ้น เพิ่มเป็น 351,000 หุ้น
นายเสกสันต์ แก้วนพจิตร จาก 25,000 หุ้น เพิ่มเป็น 45,000 หุ้น
นายอุกฤษก์ ชลสินธุ์ จาก 10,000 หุ้น เพิ่มเป็น 18,000 หุ้น
2. บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท
วันที่ 4 มิถุนายน 2550 มีผู้ถือหุ้น 8 คน คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจตุพร พรหมพันธุ์ คนละ 10,000 หุ้น นายนิรันดร์ แก่นยะมูล นายเสกสันต์ แก้วนพจิตร นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า และ นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่าคนละ 2,500 หุ้น รวม 50,000 หุ้น มูลค่า หุ้นละ 100 บาท มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นกรรมการ
วันที่ 31 ตุลาคม 2550 นายณัฐวุฒิและนายจตุพร ซึ่งถือคนละ 10,000 หุ้น รวม 20,000 หุ้น ได้ถอนการถือครองหุ้นทั้งหมด กระจายให้บุคคล 4 คนคือ นายนิรันดร์ แก่นยะมูล จำนวน 10,000 หุ้น (จาก 2,500 หุ้น เป็น 12,500 หุ้น) นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า และ นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า คนละ 5,000 หุ้น (จาก 2,500 หุ้นเป็น 7,500 หุ้น)
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2550 นายวีระได้หนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น 1 รายคือขอเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2550 ใหม่คือนายนิรันดร์ แก่นยะมูล ซึ่งที่ถือ 12,500 หุ้น ลดเหลือ 11,500 หุ้น อีก 1,000 หุ้นโอนให้ให้นายอุกฤษฏ์ ชลสินธุ์
วันที่ 31 มกราคม 2551 นายวีระ ได้หนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น1 รายคือ นายจักรภพ เพ็ญแข ได้โอนหุ้นให้นายสุชาติ ประเสริฐศรี ทั้งหมด
วันที่ 11 กันยายน 2551 นายวีระได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นเหลือ 2,000 หุ้น ที่เหลือ 8,000 หุ้น ได้โอนไปให้นายนิรันดร์ แก่นยะมูล ทำให้มนายนิรันดร์มีสัดส่วนจาก 11,500 หุ้นเป็น 19,500 หุ้น
กระทั่งวันที่ 23 มกราคม 2552 หุ้นของนายนิรันดร์ แก่นยะกูล จำนวน 8000 หุ้น ได้โอนกลับมาให้นายวีระเหมือนเดิม ทำให้นายวีระมีสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 10,000 หุ้น
กรณีดังกล่าวมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
นายณัฐวุฒิถือครองหุ้น บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด จำนวน 200,000 หุ้น (ขณะเพิ่มทุนในช่วงปี 2550 และยังไม่โอนให้บุคคลอื่น) มูลค่า 20 ล้านบาท ,บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท รวมมูลค่า 21 ล้านบาท
นายจตุพร ถือครองหุ้น บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่า 10 ล้านบาท ,บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท
นายจักรภพ เพ็ญแข ถือครองหุ้น บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ช่วงปี 2550 (รับโอนมาจากนายณัฐวุฒิวันที่ 4 มิถุนายน 2550) จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่า 10 ล้านบาท , บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด 10,000 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท
นายวีระ มุสิกพงศ์ ถือครอง บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด 100,000 หุ้น มูลค่า 10 ล้านบาท ,บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด 10,000 หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท
กล่าวเฉพาะนายณัฐวุฒิ ในช่วงนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ มีตำแหน่งเป็นรองโฆษรัฐบาล บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มิได้เปิดเผยต่อสาธารณชน จึงไม่ใครทราบว่านายณัฐวุฒิแสดงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่ามีทรัพย์สินเท่าไหร่
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตอนเป็น ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 ระบุว่ามีทรัพย์สิน 8 ล้านบาท ไม่มีเงินลงทุน แต่มีเงินฝาก 2,599,939 บาท หนี้สิน เงินกู้ 2,750,112 บาท
นายจักรภพ เพ็ญแข ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตอนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 ระบุว่าทรัพย์สิน 10.3 ล้านบาท ไม่มีเงินลงทุน แต่มีเงินสดและเงินฝาก 1.1 ล้านบาท หนี้สิน 1.7 ล้านบาท
จากข้อมูลดังกล่าวย่อมต้องเกิดคำถามทันทีนอกจาก"ที่มา"ของเงินลงทุน 40-50 ล้านบาทของนายณัฐวุฒิ นายจตุพร และเครือข่ายแล้ว เงินที่ได้จากการขายหุ้น (ถ้าขาย) หายไปอย่างพิสดารได้อย่างไร?
การถือครองหุ้น บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด 25 ธ.ค.2549 | 18 ม.ค.2550 (เพิ่มทุนเป็น 50 ล้าน) | 4 มิ.ย.2550 |
นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 2,500 หุ้น | นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 25,000 หุ้น | นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 25,000 หุ้น |
นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 2,500 หุ้น | นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 25,000 หุ้น | นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 25,000 หุ้น |
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 20,000 หุ้น | นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 200,000 หุ้น | นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 100,000 หุ้น |
นายจตุพร พรหมพันธุ์ 10,000 หุ้น | นายจตุพร พรหมพันธุ์ 100,000 หุ้น | นายจตุพร พรหมพันธุ์ 100,000 หุ้น |
นายวีระ มุสิกพงศ์ 10,000 หุ้น | นายวีระ มุสิกพงศ์ 100,000 หุ้น | นายวีระ มุสิกพงศ์ 100,000 หุ้น |
นายนิรันดร์ แก่นยะกูล 2,500 หุ้น | นายนิรันดร์ แก่นยะกูล 25,000 หุ้น | นายนิรันดร์ แก่นยะกูล 25,000 หุ้น |
นายเสกสันต์ แก้วนพจิตร 2,500 หุ้น | นายเสกสันต์ แก้วนพจิตร 25,000 หุ้น | นายเสกสันต์ แก้วนพจิตร 25,000 หุ้น |
| | นายจักรภพ เพ็ญแข 100,000 หุ้น |
31 ต.ค.2551 | 15 ม.ค.2551 | 11 ก.ย.2551 |
นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น | นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น | นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น |
นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น | นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น | นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 75,000 หุ้น |
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - | นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - | นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - |
นายจตุพร พรหมพันธุ์ - | นายจตุพร พรหมพันธุ์ - | นายจตุพร พรหมพันธุ์ - |
นายวีระ มุสิกพงศ์ 100,000 หุ้น | นายวีระ มุสิกพงศ์ 100,000 หุ้น | นายวีระ มุสิกพงศ์ 20,000 หุ้น |
นายนิรันดร์ แก่นยะกูล 115,000 หุ้น | นายนิรันดร์ แก่นยะกูล 115,000 หุ้น | function BackPage() {history.back();} |