อวันที่ 19 ตุลาคม ศาลปกครองกลางพิพากษาคดีที่ นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ฟ้อง)
ยื่นฟ้อง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง. (ผู้ถูกฟ้อง) และมีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการผู้ว่าฯ สตง. เป็นผู้ร้องสอด ออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง สตง.ที่ 184/2553 ลงวันที่ 18 ส.ค.53 เรื่องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ เป็นรักษาการผู้ว่าฯ สตง.
ทั้งนี้ ศาลปกครองพิพากษาว่า คำสั่งที่ให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายพิศิษฐ์เป็นรักษาการ ผู้ว่าฯ สตง. ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจาก เป็นคำสั่งที่ออกในช่วงที่คุณหญิงได้เกษียณอายุราชการแล้ว โดยมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ตาม พ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ดังนั้น คำสั่งดังกล่าวจึงออกโดยผู้ที่ไม่มีอำนาจ
อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างที่คุณหญิงจารุวรรณ ระบุว่าหากไม่ดำรงตำแหน่งต่อไป จะทำให้เกิดความข้ดข้องในการบริหารงานบุคคลของ สตง. นั้น
ศาลเห็นว่า เมื่อมีคำสั่งตั้งรองผู้ว่าฯ สตง. เป็นรักษาการผู้ว่าฯ สตง.แล้ว ตามกฎหมายย่อมมีอำนาจหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นผู้ว่าฯ สตง.โดยสมบูรณ์ จึงไม่เกิดความขัดข้องในการบริหารงาน ดังนั้น จึงให้คงคำสั่งรักษาการผู้ว่าฯ สตง.ต่อไป นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งให้คงคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่ง สตง.เรื่องแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ สตง.ให้รักษาราชการแทน จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา
หลังฟังคำพิพากษา นายพิศิษิฐ์ กล่าวว่า จะปฏิบัติตามแนวทางคำพิพากษาของศาลต่อไป ยอมรับว่ามีความสบายใจมากขึ้น
และพร้อมที่จะกู้ภาพลักษณ์ของ สตง.ที่เสียหายไป พร้อมกับทำหน้าที่ตรวจสอบเงินของแผ่นดินต่อไป ในส่วนของทรัพย์สินตามตำแหน่งเดิมของคุณหญิง ซึ่งปัจจุบันคุณหญิงยังไม่คืน ก็หวังว่าคุณหญิงจะปฏิบัติตามระเบียบราชการ และขอได้ให้โอกาสเจ้าหน้าที่ของเราทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยความราบรื่น
ได้ยินว่าคุณหญิงท่านบอกว่าไม่ยึดติด ก็อยากจะให้เป็นไปตามนั้น และในระหว่างที่ตนรักษาราชการแทนอยู่ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป จนกว่าจะมีการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้ออกคำสั่งมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวกรณีที่คุณหญิงจารุวรรณ ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งนายพิศิษฐ์ ไว้ก่อน ทำให้นายพิศิษฐ์ มีอำนาจในการทำหน้าที่รักษาการณ์ผู้ว่าฯ สตง.มา 1 วันแล้ว