“เด็จพี่”แฉเบื้องหลังคลิปฉาว

“เด็จพี่” แฉเบื้องหลังคลิปฉาว อ้างเด็ก ปชป.ล๊อบบี้คดียุบพรรค แถมท้าให้ฟ้อง เชื่อมีผู้ใหญ่ชักใย

วันนี้ (17 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากกรณีที่วันที่ 18 ต.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์นัดสุดท้าย โดยมีพยานสำคัญ 4 ปาก คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย โดยจากการติดตามการสืบพยานทุกนัดพบว่า พยานผู้ถูกร้องไม่สามารถแก้ต่างให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดทำป้ายหาเสียง ดังนั้น สิ่งที่พยานที่เหลือต้องตอบคือการพูดความจริงทั้งหมด โดยเลิกสร้างภาพว่าตนเองสุจริต ทั้งนี้ พรรคพบว่า มีคลิปฉาวที่แสดงให้เห็นว่ามีการวิ่งเต้นคดีนอกศาล แม้ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ จะให้สัมภาษณ์ว่า จะตรวจสอบคลิปฉาวทั้ง 5 คลิป แต่จากการตรวจสอบของทางพรรคพบว่า ล่าสุด มีการบล็อกเว็บไซต์ยูทูป ซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่คลิปภาพเหล่านี้แล้ว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ก่อนยูทูปจะถูกบล็อก

พรรคได้ไปดาวโหลดคลิปกลับมาไว้ได้ โดยยืนยันบุคคลที่ปรากฎในคลิปคือ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และ 1 ในผู้ถูกร้องอย่างแน่นอน ทั้งยังมีบุคคลที่เป็นนายหัว ซึ่งมีฐานะเป็นกระเป๋าเงินในการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งนี้ พรรคได้วิเคราะห์ที่มาว่า จะต้องมีผู้รู้เห็นการพบกันของตัวแทนศาล และ ส.ส.คนดังกล่าว เนื่องจากคนธรรมดาคงไม่สามารถถ่ายคลิปดังกล่าวได้ พรรคจึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ทำไมจึงปล่อยให้พยานฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ได้สืบพยานบุคคลตามที่มีการร้องขอต่อคนสนิทของประธานศาลรัฐธรรมนูญ

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ขอถามด้วยว่าอำนาจนายทะเบียน

ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ทำไมศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเองไม่ได้ ทั้งที่นายอภิชาต ได้ยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองมีอำนาจอย่างไร คดีนี้ ทำไมจึงต่างจากคดีอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดี คำว่า “ลูกจ้าง” โดยเปิดพจนานุกรม และเปิดกฎหมายตัดสิน และทำไมจึงต้องมีความพยายามในลักษณะที่จะนำนายอภิชาต ประธาน กกต. ตามที่นายวิรัช ยื่นคำขอ ทำไมบังเอิญเช่นนั้น

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคจึงเชื่อว่าเรื่องนี้ อาจมีบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ของสองฝ่ายเกี่ยวข้อง

จึงทำให้เกิดการพบกันของสองฝ่ายตามที่ปรากฎเป็นคลิปนี้ ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องมาช่วยกันตรวจสอบว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังคงดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ศาลพิจารณาคดีโดยถูกต้อง และเที่ยงธรรมในคดีนี้หรือไม่ สุดท้ายขอยกคำขวัญพรรคประธิปัตย์ว่า “สัจจ  อมตวาจา” การพูดความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ในคดีนี้ จะมีใครพูดความจริง เพื่อความถูกต้องกี่คน เมื่อเป็นเช่นนี้ตนคิดว่าพยาน และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่สะดวกที่จะเดินทางไปให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ตนจึงขอฝากปี๊บคลุมหัวให้นายอภิสิทธิ์ นายชวน และ ส.ส.คนดังกล่าวด้วย โดยตนจะให้พนักงานส่งเอกสารไปส่งให้พรรคประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังการแถลงข่าวนายพร้อมพงศ์ ได้นำปี๊บมาแสดงกับผู้สื่อข่าวมีรูปภาพของนายอภิสิทธิ์ นายชวน และ ส.ส.คนดังกล่าว ติดอยู่ พร้อมทั้งเปิดคลิปฉาวให้สื่อมวลชนชม แล้วประกาศว่าในการแถลงข่าวเปิดโปงครั้งนี้ ตนพร้อมจะท้าให้ฟ้องด้วย.