เตือนลูกพรรคปชป.อย่าเหลิง

“มาร์ค”เตือนลูกพรรคอย่าเหลิงว่าที่นั่งในกทม.มากแล้วคะแนนนิยมดี  ย้ำใครโกงกินโดนฟันทิ้งแน่

วันนี้ (16 ต.ค.) ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีเจนท์บีช อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนา ส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 6 ส.ส.กรุงเทพฯ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ของพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้ชื่องานที่ว่า “รวมพลังสร้างสรรค์ กทม.”    โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เราต้องติดตามใกล้ชิดถึงกระแสทางการเมือง และความรู้สึกของประชาชน ซึ่งหลังจากผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ก็ทำให้เราต้องตระหนักถึงกระแสความรู้สึกของประชาชนที่มีความเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดคือคนในกรุงเทพฯ  เราจึงต้องรู้ว่าความอ่อนไหวของกระแสทางการเมืองในกทม.มีมาก ความรู้สึกของคนใน กทม.ก้ำกึ่งระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ซึ่งถ้าใครคิดตายใจว่าเรามี ส.ส. ส.ก และส.ข.อยู่เต็มพื้นที่ และคิดว่าเป็นพื้นที่ของเรานั้น ตนถือว่าเขาคิดผิด เพราะนักการเมืองไปคิดว่าเราเป็นเจ้าของประชาชนไม่ได้ แต่เราต้องคิดว่าเป็นผู้แทนของประชาชน จึงต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ตนจึงอยากย้ำว่านี่เป็นเรื่องที่เราต้องอย่าคิดว่าประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง มีส.ส. ส.ก. และส.ข.เข้ามามากแล้วเราจะมีความนิยมขึ้นได้ แต่เราต้องกลับมาดูที่การทำงาน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งในขณะนี้ เมื่อรัฐบาลประกาศชัดเจนว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์และปรองดอง ทุกคนที่สัมผัสประชาชน ก็ต้องทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น โดยเมื่อมีการใส่ร้ายป้ายสีเรา เราก็ต้องชี้แจง และพยายามทำให้เกิดการยอมรับข้อเท็จจริง อย่าเติมเชื้อให้เกิดความรุนแรง เพราะถ้าเราไม่สร้างวัฒนธรรมการเมืองที่ดี จะเกิดการเลียนแบบการใช้ความรุนแรง เช่น ปัญหาที่ตลาดคลองเตย ซึ่งตนเข้ามาจี้ตำรวจว่าต้องไม่ให้เกิดการใช้กำลังยกพวกมาตีกัน เพราะเมื่อเกิดปัญหาที่ตลาดคลองเตยแล้ว จึงไปเกิดปัญหาแบบเดียวกันที่ตลาดปัฐวิกรณ์และที่อื่นๆ ขณะที่ปัญหาการทุจริตนั้น รัฐบาลของตนกำลังไล่สะสาง และตนยืนยันว่าพรรคของเรายึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาชื่อเสียงของเราไว้ ยอมรับว่าเรื่องธุรกิจการเมืองขณะนี้กำลังระบาดอย่างหนัก และการเมืองในท้องถิ่นถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการทุจริต ซึ่งรวมถึง กทม.เช่นกัน แต่หมายถึงสภา กทม. อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ตนยังทำงานอยู่ ตนให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่าตัวบุคคล ซึ่งถ้าใครทำทุจริตก็อย่าคิดว่าอยู่พรรคเดียวกับตนและผู้ว่าฯกทม.แล้วจะไม่ถูกจัดการ แต่ตนขอบอกว่าคนคนนั้นต้องถูกจัดการขั้นเด็ดขาด