“สุริยะใส”จี้รัฐ-กองทัพ หนุน DSI เดินหน้าขยายผลสอบขบวนการติดอาวุธ ทลายนักรบแดงซุกปีกเขมร
วันนี้ ( 15 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวเสนอว่ารัฐบาลและกองทัพจะต้องสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่กำลังเร่งสอบสวนขยายผลจับกุมกลุ่มเคลื่อนไหวติดอาวุธ และผู้บงการที่อยู่ในประเทศและหลบหนีออกนอกประเทศ ในเรื่องนี้ถือว่าดีเอสไอมีผลงานต้องชื่นชม แต่เป็นห่วงท่าทีของฝ่ายการเมืองและกองทัพที่ส่งสัญญาณติดเบรกและปรามการทำ งานของดีเอสไอ โดยเฉพาะการออกมาเปิดโปงว่ามีการส่งนักรบแดงหลายคนไปฝึกอาวุธที่กัมพูชา
ส่วนข้อกังวลที่บางฝ่ายห่วงว่าจะกระทบความสัมพันธ์กับกัมพูชานั้น กองทัพกับรัฐบาลจะต้องเอาข้อเท็จจริงและหลักฐานยืนยันต่อกัมพูชาว่าเรื่อง ดังกล่าวมีจริง แม้กัมพูชาจะมีสิทธิออกมาปฏิเสธ แต่หากมีข้อเท็จจริงจะปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งถ้ากัมพูชาจริงใจกับประเทศไทยก็ต้องพูดความจริง ถ้าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศไม่ยืนอยู่บนข้อเท็จจริงและผลประโยชน์ของ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ก็ถือเป็นความล้มเหลวของนโยบายด้านการต่างประเทศ
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสังคมรู้กันดีว่าผู้ก่อความรุนแรงและกลุ่มติดอาวุธได้หลบหนีไปอยู่ ที่กัมพูชาหลายกลุ่ม ทางการกัมพูชาจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อมีข้อเท็จจริงจาก ดีเอสไอแบบนี้ ทางการไทยก็ต้องขอความร่วมมือไปยังทางการกัมพูชาเพื่อช่วยติดตามตัวคนร้าย ที่หลบซ่อนตัวอยู่ที่นั้น วิธีการแบบนี้ต่างหากที่จะถือว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่จริงใจต่อกัน ไม่ใช่หลบเลี่ยงที่จะพูดความจริงเพียงเพื่อรักษาหน้ากันไปวันๆ เท่านั้น
“จริงๆ แล้วรัฐบาลไทยควรยกระดับเจรจาเรื่องนี้กับกัมพูชา หากมีหลักฐานชัดว่ากลุ่มก่อการร้ายหลบอยู่ในกัมพูชา ดีเอสไอ และ สตช.ก็สามารถประสานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อประสานไปยังกัมพูชาได้ทันที เพราะไทยกับกัมพูชาได้ทำสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2544 เพราะในอนาคตอาจมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายในประเทศไทยและหลบหนีไปอยู่ กัมพูชา จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งทดลองอาวุธ หรือกัมพูชาก็อาจจะตกเป็นแหล่งซ่องสุมของผู้ก่อการร้ายโดยไม่รู้ตัวก็ได้”นายสุริยะใส กล่าว