ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของศาลรัฐธรรมนูญว่า
คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยได้ติดตามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และเห็นว่าที่ผ่านมา ทีมทนายความของพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถตอบข้อเท็จจริงได้ ซึ่งล่าสุดได้มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานในรูปแบบใหม่ ก่อนการสืบพยานนัดสุดท้ายที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ และนายถาวร เสนเนียม จะขึ้นเบิกความนั้น พรรคเพื่อไทยพบข้อมูลว่า แกนนำของรัฐบาลมีความหวั่นไหวในคดียุบพรรค จึงเกิดกระบวนการที่มีแกนนำของรัฐบาล ให้ลูกน้องที่เป็นส.ส.อักษรย่อ ว. แหวน ไปวิ่งเต้นกับบุคลสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญอักษรย่อ พ. พาน ซึ่งมีการพบกันและมีการดำเนินการในลักษณะขอร้องให้มีการช่วยเหลือในคดีเพื่อให้ส่งผลดีต่อรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ โดยในเร็วๆนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดเผยพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อกระชากหน้ากากจอมปลอมของนักการเมืองบางกลุ่ม
"เรื่องนี้ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล เป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่ากรณีที่นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ไปรับเอกสารนอกที่ทำการศาล และนอกเวลาศาล
ทั้งนี้สำหรับกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทีมยุบพรรค สร้างภาพแถลงข่าวให้ลูกทีมส.ส.ประชาธิปัตย์สู้คดีโดยใช้ฝีมือไม่ใช้ฝีตีนนั้น ผมเข้าใจว่าหมายถึงการต่อสู้โดยการใช้ข้อเท็จริงไม่ใช่การวิ่งเต้น ดังนั้นขอท้าไปยังนายชวน หากมีพยานหลักฐานที่ปรากฎว่านักการเมือง ว. แหวน ไปพบบุคคลสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญตามที่ผมพูดไปนั้น นายชวนกล้าลาออกจากตำแหน่งส.ส. และประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมในคดียุบพรรคหรือไม่ รวมไปถึงนายอภิสิทธิ์ จะรับผิดชอบอย่างไรและมีจะหน้าไปศาลในวันที่ 18 ตุลาคมนี้อีกหรือไม่" นายพร้อมพงศ์กล่าว