ชาญชัยเชื่อมีการทุจริตรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ชี้ตั้งงบสูงเกินจริง 8 พันล.


"ชาญชัย"เชื่อมีการทุจริตรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ชี้ตั้งงบสูงเกินจริง 8 พันล.

ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินว่า จากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมาธิการนานกว่า 7 เดือน พบข้อสงสัยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นโครงการเดียวที่มีการขอเพิ่มวงเงินงบประมาณ ในการก่อสร้างสูงกว่าความเป็นจริงมาก โดยไม่มีเหตุผล ในขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงมีการปรับลดงบประมาณลง จึงขอตั้งข้อสังเกตุว่า
1.การตั้งราคากลางถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
 2.มีการฮั้วกันหรือไม่
3.มีการช่วยกันแก้ไขเอกสารในการประกวดราคาหรือไม่
และ 4.กระทรวงคมนาคม ซึ่งรับทราบว่ามีความผิดปกติ แต่ทำไมไม่มีการทักท้วง และหากมีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ


นาย ชาญชัย กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทที่ปรึกษาบีเอ็มทีซี ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับทางอนุกมธ. ว่า ในส่วนของสัญญาที่ 1 และ 2 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้น ถือว่าใช้งบประมาณเกินมากถึง 4 เท่าตัว หรือ 400 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับโครงการสายสีแดงและสีม่วง กล่าวคือ ปกติการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะใช้เงิน 1 พันล้านบาทต่อกิโลเมตร แต่สายสีน้ำเงินกลับใช้เงินถึง 5 พันล้านบาทต่อกิโลเมตร

   
นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ยังพบว่ามีขบวนการการยื่นซองประกวดราคาที่อาจเข้าข่ายการฮั้ว กล่าวคือใน 4 บริษัทที่ยื่นซองประมูล ประกอบด้วย
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
3.กลุ่มเอสเอช-ยูเอ็น จอยท์เวนเจอร์ ประกอบด้วย บริษัท ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
และ 4.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการตกลงกันนอกรอบว่าใครต้องการสัญญาระยะเท่าไหร่ เมื่อตกลงกันได้แล้วก็ไม่ยื่นเอกสาร เช่น ใบรับรองผลงานที่ผ่านมา รายชื่อผู้บริหาร จนเป็นเหตุให้กรรมการที่พิจารณาไม่พิจารณาบริษัทอื่นนอกจากบริษัทที่ได้มี การตกลงกันไว้ว่ามีความต้องการ

   
        "ความไม่โปร่งใสนั้น ผมไม่ได้จงใจที่จะดิสเครดิตบุคคลใด หรือไปกล่าวหาใคร แต่เพื่อความถูกต้อง ต้องมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แม้ว่าตามกฎหมายฮั้ว จะไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน แต่ผมเชื่อว่ามีกระบวนการที่ผิดกฎหมาย" นายชาญชัย กล่าว

  
นายชาญชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบพิรุธใน 2 สัญญา คือ ช่วงวันเล่งเนยญี่ถึงสนามชัย และช่วงสนามชัยถึงท่าพระ ที่ไม่ได้กำหนดรายละเอียดของโครงการ แต่มีการระบุลอยๆ ว่าเป็นดีไซน์บิ้วท์ จึงทำให้เป็นที่สังเกตว่า การที่ไม่ระบุในเรื่องของโครงสร้างดังกล่าว อาจทำให้งบประมาณดังกล่าวแพงกว่าความเป็นจริงกว่า 20 เปอร์เซนต์ หรือ 8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทางอนุกมธ.จะเชิญเจ้าหน้าที่จากอัยการสูงสุด เข้าให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวในการประชุมครั้งหน้าด้วย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์