ป.ป.ช.ยกคำร้องเรืองไกรกรณีเงินโผล่เข้าบัญชีแบงก์25ล้าน

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมายกคำร้องกรณีเงินฝาก 25 ล้านบาทโอนเข้าบัญชีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.หลังจากมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา
 
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แถลงว่า ตามที่ นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ  สมาชิกวุฒิสภา  ได้มีหนังสือลงวันที่ 7 มิถุนายน 2553  ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนว่า มีการโอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท เข้าบัญชีออมทรัพย์  ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  สาขาสาทร  ของนายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ  ทำให้มีข้อสงสัยว่าเงินจำนวนดังกล่าว เป็นเงินค่าอะไร และโอนมาจากผู้ใด   นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ  มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติเกี่ยวกับยอดเงิน 25 ล้านบาทนี้ หรือไม่    ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่  ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินของนายเรืองไกร ที่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไว้แล้วในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา นั้น

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วข้อเท็จจริงปรากฏว่า 

เงินจำนวน 25 ล้านบาท ที่ฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสาทรเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553  อันเป็นมูลกรณีของเรื่องนี้  เป็นเงินที่นายเรืองไกรสั่งจ่ายเช็คเลขที่ 2264257  ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)  บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 013-3-02056-3 ของนายเรืองไกร ฝากเข้าบัญชีเอง โดยเงินฝากจำนวน 25 ล้านบาท ที่สั่งจ่ายเป็นเช็คดังกล่าวเป็นเงินส่วนหนึ่งของเงินฝากประจำที่นายเรืองไกรมีบัญชีเงินฝากอยู่กับธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทยจำกัด (มหาชน)ที่เพิ่งจะครบกำหนดไถ่ถอน 

ทั้งนี้ บัญชีเงินฝากประจำนี้ เป็นทรัพย์สินที่ นายเรืองไกรมีอยู่ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา  และนายเรืองไกร ก็ได้แสดงไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 แล้วด้วย เงินจำนวน 25 ล้านบาท ที่เป็นมูลเหตุของเรื่องนี้  จึงมิใช่เงินที่นายเรืองไกรได้มาโดยมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา  แต่อย่างใด