นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย
กล่าวเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอนโยบายเศรษฐกิจต่อคณะทำงานเศราฐกิจของพรรค ประกอบด้วยการเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท รับจำนำราคาข้าว 15,000 บาทต่อเกวียน และเพิ่มอัตราเงินเดือนขั้นต่ำของผู้จบปริญญาตรีที่ 15,000 บาท ว่า แนวคิดภาพใหญ่ของพรรคคือการที่จะต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนมาก และยังเป็นการสร้างการบริโภคภายในประเทศให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกในอนาคต ทั้งนี้นโยบายทั้ง 3 เป็นเพียงนโยบายเริ่มต้นที่จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับทุกภาคส่วนคือ แรงงาน เกษตรกร และ ผู้จบปริญญาตรี
สำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเกรงว่าจะไม่มีคนจ้างหากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่ 300 บาทนั้น
นายพิชัย กล่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้มีแผนงานรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะต้องไม่กระทบต่อผู้ประกอบการแต่อย่างใด ซึ่งขอให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้และเชื่อว่าผู้ประกอบการจะดีใจด้วยซ้ำว่าแผนงานที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการหากได้เป็นรัฐบาลจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในทุกทาง สำหรับการรับจำนำราคาข้าวที่ราคา 15,000 บาทต่อเกวียนนั้น ทางพรรคก็ได้เตรียมแผนงานไว้เรียบร้อยแล้ว และจะเข้าดูแลพืชผลเกษตรที่สำคัญทุกชนิดไม่ใช่เฉพาะข้าวเท่านั้น
“นี่เป็นเพียง 3 นโยบายแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายนโยบายที่จะทยอยออกมา ซึ่งเชื่อได้ว่าจะต้องทำให้ประเทศพัฒนาและประชาชนมีการกินดีอยู่ดีอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้มั่นใจว่าทางพรรคได้เตรียมวิธีการในการดำเนินการไว้แล้ว ซึ่งไม่เหมือนบางพรรคที่เพียงแต่พูดหาเสียงแต่ไม่ได้มีวิธีคิดและวิธีปฏิบัติที่ดี โดยผลงานในอดีตของเราเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแนวทางของพรรคตั้งแต่พรรคไทยรักไทยเป็นต้นมา เราสามารถทำได้มาตลอด แต่ทั้งนี้ยังไม่อยากเปิดเผยขั้นตอนรายละเอียดการทำ เพราะกลัวจะถูกนำไปเลียนแบบ และนำไปทำผิดวิธีและก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศได้”นายพิชัยกล่าว