ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องรับรอง 2 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังการเข้าพบว่า เป็นการพูดคุยกันเรื่องที่อยู่ในความสนใจในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งมีทั้งเรื่องการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯครั้งที่ผ่านมา การส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาชาวรัสเซียในคดีค้าอาวุธ และการที่ตนได้เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการ โดยในกรณีของนายวิคเตอร์ บูทนั้น ตนได้อธิบายว่าขณะนี้ขั้นตอนของกฎหมายเป็นอย่างไร และอธิบายด้วยว่ากฎหมายกับสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นไปตามหลักสากล จะมีกระบวนการของศาล จากนั้นอำนาจสุดท้ายในการดำเนินการดังกล่าวอยู่ที่ฝ่ายบริหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐฯ เรียกร้องในเรื่องการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
เขาไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่ในตอนแรก เขาตกใจและสับสนว่า ข่าวที่ออกมานั้นดูเหมือนว่าฝ่ายบริหารจะไปทำอะไรที่ขัดกับศาล ซึ่งตนบอกว่าที่จริงฝ่ายบริหารยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ แต่ตามหลักของกฎหมาย การใช้ดุลพินิจขั้นสุดท้ายเป็นของฝ่ายบริหาร ขณะที่เขาก็เข้าใจว่ามีความไม่ชัดเจนอยู่ในเรื่องข้อกฎหมายของคดีที่ 2 ของนายบูท ซึ่งนายบูท ได้ให้ทนายความไปยื่นอุทธรณ์ แต่ตนไม่แน่ใจว่าศาลจะมีท่าทีอย่างไรต่อการขออุทธรณ์
เมื่อถามว่า การใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารจำเป็นต้องเหมือนกับที่ศาลตัดสินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
ไม่จำเป็น แต่ถ้าฝ่ายบริหารใช้ดุลพินิจที่แตกต่างไป ก็ต้องมีเหตุผลที่ดี อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณา เพราะจะรอให้กระบวนการมีความชัดเจนก่อน และเราอยากใช้เวลาช่วงนี้ในการทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เมื่อถามว่า การเข้าพบของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯครั้งนี้ถือเป็นการกดดันรัฐบาลไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรกดดัน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
