ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา14.00 น. 10 ต.ค.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม
คณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาคำเบิกความของพยานในส่วนของพรรค ต่อกรณีการใช้เงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจจะผิดวัตถุประสงค์
นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้คดียุบพรรค แถลงภายหลังการประชุมว่า
ในวันพรุ่งนี้ ( 11 ต.ค.) จะมีการสืบพยานคดียุบพรรคครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นพยานฝ่ายผู้ถูกร้อง โดยมีพยานทั้งหมด 5 ปาก และพรรคได้ยื่นคำให้การหรือบันทึกถ้อยคำไปยังศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงฝ่ายผู้ร้องได้ยื่นคำคัดค้านเข้ามาถูกต้องแล้ว นายวิรัช กล่าวต่อว่า ขณะนี้พยานหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ศาลแล้ว ดังนั้น ขึ้นอยู่กับศาลที่จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะไปเบิกความต่อศาลซึ่งเป็นนัดสุดท้ายด้วย ยืนยันว่าพรรคต่อสู้ด้วยหลักฐานข้อมูล ความจริง และข้อกฎหมาย
นายวิรัช กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก่อนการนัดเบิกความของพยานในศาลทุกครั้ง
นายพร้อมพงศ์จะวิพากษ์วิจารณ์ศาลและกดดันก้าวล่วงอำนาจศาลด้วยการชี้นำ ตัดสินไปก่อนทุกครั้ง แม้พรรคประชาธิปัตย์พยายามทำความเข้าใจชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงก็ตาม ดังนั้นขอให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม และนายพร้อมพงศ์ไปฟังการเบิกความทุกครั้ง ย่อมจะทราบดีว่า นายบัญญัติสมัยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้เบิกความตามความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเคยให้การต่อกกต.ไปแล้ว และยืนยันว่าสอดคล้องกันอย่างไม่มีพิรุธ สามารถต่อเนื่องได้หมด การกล่าวหาว่านายบัญญัติมีพิรุธหรือจนมุมนั้นจึง ไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชวนได้ฝากอะไรกับคณะทำงานเป็นพิเศษหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า นายชวนก็กล่าวเช่นเดิมคือ เราต้องทำอย่างตรงไปตรงมาและด้วยความเป็นจริง ส่วนมีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่นั้นก็ต้องบอกว่าน่าห่วง เพราะพรรคเป็นผู้ถูกร้อง แต่เมื่อผลออกมาอย่างไรก็ยอมรับ พรรคไม่มีการกดดันศาล