สุรยุทธ์ไม่พูดบึ้มกรุงชี้สงบได้คงดี

"สุรยุทธ์"เปิดสานใจไทยฯรุ่น 14 ชี้แตกต่างได้ แต่อย่าแตกแยกแนะต้องให้ความเป็นธรรมเยาวชนใต้ แนะสังคมยึด“สถาบันกษัตริย์”ศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ ปัดวิจารณ์บึ้มกรุงอ้างไม่ใช่หน้าที่ แต่ชี้ถ้าสงบได้บ้านเมืองคงดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้”เป็นประธานพิธีเปิดปฐมนิเทศครอบครัวอุปถัมภ์โครงการ“สานใจไทยสู่ใจใต้”รุ่นที่ 14 โดย พล.อ.สุรยุทธ์ ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสถือเป็นการทำบุญ ไม่ว่าจะเชื้อชาติใดก็มีความรู้สึกเดียวกันคือจะได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส แม้แต่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ได้ก่อตั้งโครงการดังกล่าวขึ้นมา และมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือกันที่มีความเห็นพ้องกันในการช่วยเหลือ และทำให้เยาวชนที่มาจากในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอบรม

 พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ได้เน้นย้ำว่า สิ่งที่อยากเห็นคืออยากให้พวกเราช่วยแนะนำเยาวชนให้มีความเป็นไทย และความเป็นธรรม ซึ่งความเป็นไทยที่ว่า พวกเราคงถ่ายทอดให้กับเยาวชนได้ ทั้งนี้ความเป็นไทยก็คงเป็นสิ่งที่เรารักชาติทุกวัน ความเป็นชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ชาติของเรานั้นประกอบด้วยจากผู้คนหลายภาคส่วน จากหลายเชื้อชาติ แต่มารวมกัน และเรียกว่า “ คนไทย ” ถ้าเรามีโอกาสที่จะปลูกฝังเยาวชนก็จะเป็นประโยชน์ให้ได้รับทราบว่า ในชาติมีคนจากหลายเผ่าพันธุ์ และมารวมอยู่ด้วยกัน ส่วนความเป็นธรรมนั้น คือ การให้เยาวชนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในทุกๆด้าน ทั้งโอกาสทั้งด้านการศึกษา รวมถึงการดูแลทางด้านสาธารณสุข ซึ่งเราต้องระวังไม่ให้เกิดความแตกต่าง เพราะถ้าเราให้เยาวชนได้รับโอกาสที่ใกล้เคียงกัน ความเป็นธรรมในสังคมก็จะเกิดขึ้นด้วย

 “เรื่องความเชื่อ หรือ ศาสนา ก็เช่นเดียวกัน ที่มีความเชื่อที่แตกต่างกัน แม้แต่ศาสนาเดียวกันก็มีความเชื่อแตกต่างกัน ไม่ว่าจะอิสลาม พุทธ คริสต์ ก็มีนิกายย่อย ๆ มีความเชื่อแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่า ความต่างกันจะทำให้เราแตกแยก ต้องทะเลาะกัน อย่างที่เรียนไปว่า แต่ละศาสนาต่างก็มุ่งที่จะสร้างความรัก ความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้กับคนในสังคม ไม่ใช่เพียงแต่คนในชาติ แม้แต่คนในชนชาติอื่นเราก็ช่วยได้หากด้อยโอกาส คนไทยได้ช่วยคนอื่นมามากแล้ว โดยเฉพาะกรณีการเกิดภัยพิบัติในประเทศต่าง ๆ คนไทยก็พร้อมใจกันที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยกัน เป็นมนุษย์ที่อยู่ในโลกเดียวกัน เราน่าจะสร้างความรัก ความสามัคคี ขึ้นมาและช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส การทำเช่นนั้นก็จะทำให้เกิดความรัก ความสามัคคีเกิดขึ้นในสังคม เราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความรัก ความสามัคคีที่มีอยู่ในสังคม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะทำให้สังคมเกิดความสงบสุข และเจริญก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดี ” พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

 พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การเจริญก้าวหน้าไม่ได้ไปในทิศทางที่ต้องแก่งแย่งแข่งขันซึ่งกันและกัน จนกระทั่งไม่เหลือซึ่งน้ำจิตน้ำใจที่จะช่วยเหลือกัน นั่นคือสิ่งที่ไม่ดี เป็นความเสี่ยงมากกว่าเรียกว่าความเจริญ ช่วงนี้ถ้าเราค่อย ๆ แนะนำทำความเข้าใจให้เยาวชนรับทราบ ก็ถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับบ้านเมืองและชีวิตเยาวชนต่อไปในอนาคต

 พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งเยาวชนเหล่านี้อาจไม่มีโอกาสได้เห็น หรือเฝ้ารับเสด็จเหมือนกับพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ได้รับทราบว่าในอดีตที่ในหลวงทรงมีพระชนม์มายุไม่มาก และในหลวงยังสามารถเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่หลาย ๆ แห่งได้ ซึ่งพวกเรามีโอกาสได้ต้อนรับและได้เห็นพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งได้ถ่ายทอดมาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการ ซึ่งเยาวชนอาจจะไม่ได้เห็น

  ทั้งนี้พวกเราจะทำอย่างไรให้เยาวชนรับทราบว่า โครงการต่าง ๆ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และเยาวชนจะได้เข้าใจว่าในการทำงานของสังคม เรามีจุดศูนย์กลางในการยึดเหนี่ยว คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนอกจากจะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวแล้วในหลวงยังพระราชทานสิ่งต่าง ๆมาให้เรา โดยที่ถือว่าเราเป็นประชาชนของพระองค์ท่าน

ปัดวิจารณ์บึ้มกรุงฯชี้ถ้าสงบได้บ้านเมืองคงดี

 พล.อ.สุรยุทธ์  ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ กทม.ช่วงนี้ ว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ตนติดตามจากสื่อมวลชนเท่ากับที่ท่านทั้งหลายได้รับซึ่งตนไม่ทราบว่า เหตุระเบิดที่เกิดมากขึ้นเพราะอะไร หรือน้อยลงเพราะอะไร เพราะไม่ได้อยู่ในส่วนของผู้ที่จะดูแล และรับผิดชอบซึ่งก็ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารเหมือนกับประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น

 เมื่อถามว่าในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้นำกองทัพมองเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของผู้นำกองทัพในปัจจุบันที่จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว ตนไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่ได้มีการติดตามข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้คงไม่มีคำแนะนำให้ เพราะหน้าที่ของตนไม่ได้เกี่ยวข้องทางด้านนั้น

 ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ กทม.บ่อยครั้งขณะนี้นั้นคืออะไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าโดยส่วนตัวไม่ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารเหมือนกับประชาชนทั่วไป ซึ่งสื่อมวลชนเองก็น่าจะทราบรายละเอียดมากกว่าตนด้วยซ้ำ เพราะตนก็ได้ติดตามข่าวมาจากสื่อ ดังนั้นจึงไม่มีข้อคิดเห็นหรือมีคำแนะนำอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนมีความหวังอย่างเดียว คือ ถ้ามีความสงบก็จะเป็นเรื่องดีกับบ้านเมืองของเรา



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์