คตส.ชี้ชัดเส้นทางเงิน´หญิงอ้อ´ตบตาซื้อขายหุ้นชิน

21 พฤศจิกายน 2549 10:20 น.

"สัก กอแสงเรือง" เผยคตส.ตรวจเส้นทางเงินพบพิรุธ เข้าข่ายตบตาซื้อขายหุ้นชิน ระบุ 730 ล้านบาท พร้อมชำระค่าโบรกเกอร์กว่า 7ล้านกว่า ที่แท้เงินตีเช็ค"คุณหญิงพจมาน" และกลับเข้าบัญชีเจ้าตัวอีก

นายสัก กอแสงเรือง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ทำให้รัฐเสียหาย(คตส.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซค์ไทยแลนด์ เช้าวันนี้ ถึงความเป็นไปได้ที่จะตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินคดีอาญาผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีการโอนหุ้นระหว่างคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ ซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรม โดยเขาระบุว่า สัปดาห์หน้าคงจะแน่นอน เพราะเมื่อวานมีการประชุมเห็นพ้องกันจะต้องดำเนินคดีอาญา เพราะเห็นว่าการชี้มูลเรื่องอาญาต้องมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนและเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้คัดค้านโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐาน

เมื่อถามว่า เรื่องเก็บภาษีย้อนหลังจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จะต้องได้ง่าย แต่ที่กลัวก็คดีอาญา ซึ่งพิสูจน์เจตนา นายสัก กล่าวว่า ต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบของมาตรา 37 หรือไม่ โดยข้อเท็จจริงที่ฟังได้จากสำนวนของป.ป.ช. ที่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ในปี 2543 ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเชิญผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้มาให้ถ้อยคำอยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ก็พบเรื่องเส้นทางของเงินที่เป็นการอ้างว่าเป็นการซื้อขายหุ้นในตลาด 730 ล้าน พร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ 1% หรือ 7 ล้านกว่า ทั้งหมดชำระโดยเช็คคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และกลับเข้าบัญชีคุณหญิงพจมานอีก

"เส้นทางอย่างนี้แสดงว่า ไม่มีการซื้อขายกันจริง เมื่อป.ป.ช.พบหลักฐานเช่นนี้ ก็เลยยอมรับกันว่าไม่ได้ซื้อขาย แต่เป็นหุ้นของคุณหญิงพจมานที่ใส่ชื่อ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ไว้แทนและยกให้นายบรรณพจน์เพราะช่วยงานมานับ 10 ปี และเนื่องในโอกาสแต่งงานวันที่ 12 ม.ค.39 และมีบุตรวันที่ 4 ธ.ค.39 และมาให้วันที่ 7 พ.ย.40 เพื่อเป็นของขวัญเป็นทรัพย์สินของครอบครัวและบุตร นี่คือคำชี้แจงและส่วนนี้มีการดำเนินการโดยสรรพากรด้วย และมีการอ้างข้อเท็จจริงเช่นนี้ สรรพากรสุดท้ายสรุปยุติการตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นการให้ตามธรรมเนียมประเพณี ได้รับการยกเว้น ของม.42 (10)" นายสัก ตอบ

ผู้ดำเนินรายการถามอีกว่า คนที่เกี่ยวข้องคุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ รวมทั้ง น.ส.ดวงตา ซึ่งเป็นคนรับใช้ในบ้านด้วยหรือไม่ นายสัก กล่าวว่า ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 ท่านจะมีการดำเนินการไต่สวนด้วย ซึ่งคนใกล้ชิดก็จะถูกดำเนินคดีอาญาด้วย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคนที่ใกล้ชิดก่อน