นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรค พท. แกนนำกลุ่มมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นายไชยากล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯคนใหม่นั้น ภาคอีสานเห็นว่าต้องไม่ให้มีภาพของนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เหมือนที่ผ่านๆ มา
กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มมิ่งขวัญพยายามผลักดันให้พรรคประกาศตัวแคนดิเดตนายกฯว่า ช่วงค่ำของวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา นายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสาน พรรค พท.นัดหารือ ส.ส.อีสานทั้งหมด ที่ร้านเบียร์หิมะ ย่านประชาชื่น เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะสถานภาพของรัฐบาลที่มีข่าวลือการปรับครม.สารพัดสูตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าหลังจากที่นายสุเทพลาออกจากรองนายกฯ เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 8 ตุลาคม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายใน 15 วัน ก่อนที่จะมีการตัดสินคดียุบพรรค ปชป.
"มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการปรับ ครม.โดยเอาพรรค ภท.ออกไปและนำพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) อีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งพรรคประชาราช (ป.ช.ร.) เข้ามาร่วมรัฐบาลแทน โดยพรรคประชาธิปัตย์มุ่งหวังที่จะใช้การปรับ ครม.ครั้งนี้ลบภาพการทุจริตคอร์รัปชั่นของพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเพื่อจะได้โกยคะแนนช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องเลือกแคนดิเดตนายกฯ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดึงดูดให้คนเข้าพรรค และป้องกันอาการเลือดไหลของ ส.ส.บางคน หากพรรคยังนิ่งเฉยอาจจะโดนทุบตีด้วยข้อหาต่างๆ นานาจึงต้องเดินหน้าเปิดแคมเปญ นโยบายเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และให้ ส.ส.ทำกิจกรรมมากขึ้น"
และต้องเป็นคนที่มีความรู้ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้าน ส.ส.ภาคอีสาน จะเสนอให้มีการโหวตกันระหว่าง พล.อ.ชวลิต ร.ต.อ.เฉลิม และนายมิ่งขวัญ เบื้องต้นเท่าที่เช็คเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ล้วนอยากได้นายมิ่งขวัญที่พรรคการเมืองอื่นๆ ให้การยอมรับ และมีภาพความประนีประนอม
นายไชยากล่าวว่า ส.ส.อีสานเห็นว่า พรรคควรตั้งเป้าเก้าอี้ ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นรายภาค โดยภาคเหนือ และอีสานน่าจะนิ่งแล้ว แต่ภาคอื่นๆ ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เช่นภาคตะวันออกอาจตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส. 40% หรือ 4-7 คน สำหรับ กทม.อาจแบ่งโซนดูแล และให้นายตำรวจ นายทหาร ที่เป็นสมาชิกพรรคมาช่วยแบ่งงานตามพื้นที่
ด้านนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรค พท.กล่าวว่า นาทีนี้คนที่มีความเหมาะสมที่สุดคือ นายมิ่งขวัญ และเสียงของ ส.ส.ในพรรคก็สนับสนุนนายมิ่งขวัญถึงร้อยละ 70 ในการประชุม ส.ส.ของพรรคในวันที่ 12 ตุลาคม ส.ส.บางส่วนอาจเสนอญัตติในที่ประชุมให้คัดเลือกบุคคลที่พรรคจะชูเป็นนายกฯคนต่อไป เราต้องฟังมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม กระแสเลือดไหลออกจากพรรคจะหมดไป และจะมี ส.ส.พรรคอื่นในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางไหลเข้ามาพรรค พท.มากขึ้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
