โฆษก ปชป.ชี้ พท.อาจใช้เดือนต.ค.เป็นวันสัญลักษณ์เพิ่มความรุนแรง


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่พรรคประชาธิปัตย์

นพ.บุรณัชย์  สมุทรักษ์  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง ว่า 

พรรคประชาธิปัตย์รอดูท่าทีของพรรคเพื่อไทยหลังจากที่มีการประชุมของพรรคเพื่อไทย เพื่อไปหารือกับกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคของตัวเองว่ายังยืนยันตามแถลงการณ์ที่จะเข้าร่วมการปรองดองหรือไม่  เพราะก่อนหน้านี้ในแถลงการณ์ฉบับแรกของเพื่อไทยยังไม่ได้ยืนยันว่าจะร่วมปรองดอง  อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าเดือนตุลาคมจะเป็นจุดทดสอบสำคัญที่จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ว่าจะนำไปสู่การปลุกระดมสอดรับกับแผนสะเก็ดไฟลามทุ่งหรือไม่ 

ซึ่งพรรคมีความกังวลว่าพรรคเพื่อไทยอาจใช้เดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนที่มีวันสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ และพยายามกดดันศาลรัฐธรรมนูญเพื่อโยงไปถึงคดียุบพรรคประชาธิปัตย์  ดังนั้นไม่อยากให้กังวลว่านายกฯ จะไม่ตอบรับแผนปรงดอง เพราะนายกฯ เป็นคนเสนอและดำเนินการมา 5 เดือนแล้ว รอแต่พรรคเพื่อไทยที่จะเข้าร่วมแผนปรองดองอย่างจริงจัง 


นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยสามารถแสดงออกได้ด้วยการกระทำ ซึ่งประชาชนรอคอยที่จะเห็นความเป็นรูปธรรมของการปรองดอง ซึ่งอาจมีเรื่องที่มากระทบต่อความปรองดอง 2 เรื่องคือ

1.ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในการก่อวินาศกรรม  ดังนั้นอยากให้พรรคเพื่อไทยประกาศจุดยืนที่ชัดเจนด้วยการประณามการใช้ความรุนแรง รวมทั้งตัดความสัมพันธ์กับกลุ่มที่เคลื่อนทางการเมือง ปลุกระดมไปสู่ความรุนแรง และพรรคเพื่อไทยต้องมีส่วนร่วมในการขยายผลเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิด 

2.ข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อคนไทยทั้งชาติว่ามีขบวนการพาดพิงสถาบัน และเกาะติดกับสัญลักษณ์ที่อยู่ภายใต้ชื่อทางการเมือง  เช่น  สิ่งพิมพ์  ชื่อเว็ปไซต์  ไม่ว่าจะเป็นประโยคที่ว่า “ว๊อยส์ออฟ ยูเอสเอ” ควรประกาศให้ชัดเจนกับกลุ่มที่ถูกอ้างชื่อและเคลื่อนไหวนอกสภา ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาติที่จะต้องป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นในบ้านเมือง


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมของพรรคเพื่อไทยในเดือนตุลาคมนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะนำไปสู่ความวุ่นวายหรือก้าวข้ามวิกฤติความขัดแย้งได้  ดังนั้นต้องช่วยกันขจัดความเสี่ยง 5 เรื่องคือ

1.ลดเงื่อนไขที่จะเป็นการปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ  ทั้งคลิปเสียง  วีดิโอ โดยสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งองค์กรอิสระนำข้อมูลจากดีเอสไอมาค้นหาความจริง

2.การก่อวินาศกรรมที่มีการเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวใต้ดิน

3.การลอบทำร้ายบุคคลสำคัญ ซึ่งการฝึกอาวุธที่มีคนกลุ่มน้อยพยายามลอบทำร้ายคนสำคัญ ดังนั้นต้องให้เจ้าหน้าและประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส 

4.การสร้างสถานการณ์ด้วยการขู่รอบวางระเบิดที่สถานที่สำคัญ  โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งต้องเร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้  

5.การสร้างเงื่อนไข เพื่อการชุมนุมทางการเมืองให้นำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายช่วยสร้างความมั่นใจและช่วยประคับประคองบ้านเมืองให้เข้าสู่ภาวะปกติ


 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์