"บิ๊กจิ๋ว"ติง ภท. นิรโทษกรรม ผิดหลักการ อย่าอ้างคำสั่ง 66/23 หวังผลประโยชน์ทาการเมือง
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการเดินสายปรองดองของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ว่า เป็นความพยายามของทุกฝ่ายเพื่อแสวงหาความสันติสุขให้เกิดในบ้านเมือง เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าจะให้การสนับสนุน เช่นกรณี พรรคภูมิใจไทยได้อ้างถึง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 66/23 ที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เสนอความปรองดองเป็นหลักการในการปรับเรื่องการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย โดยคำสั่งแรก คือการให้เสรีภาพของบุคคลต่างๆ อย่างสมบูรณ์ ส่วนขั้นที่สอง คือการให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนโดยสมบูรณ์ยังไม่สำเร็จ จึงเกิดปัญหาในบ้านเมืองขณะนี้ ในหลักการต้องเป็นการเสนอให้เกิดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้ได้ มิเช่นนั้น ถ้ามีการนิรโทษกรรมหรือยกโทษให้พี่น้องธรรมดา อีกหน่อยก็จะเป็น อนาธิปไตย และกลายเป็นว่าต่อไป ใครอยากจะทำอะไรก็ได้ จะมีการมาขอนิรโทษกรรมหรือสร้างความปรองดองให้ ซึ่งอันนี้ถือว่าอันตราย วันนี้เรากำลังดูกันอยู่ ว่าพรรคประชาธิปไตยเสนอ และพรรคเพื่อไทยยังมีปัญหา หรือพรรคโน่นก็มีปัญหา เมื่อเวลาพรรคเพื่อไทยเสนอ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีปัญหา และพรรคโน่นพรรคนี้ก็จะมีปัญหาตามกัน และ พรรคที่เหลือก็จะมีปัญหากันหมดดังนั้นจะต้องดูให้ลึกว่ามันเป็นอะไรกัน
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ดังนั้นเราต้องพยายามแก้ไขในจุดนี้ ซึ่งถือว่าไม่ยากหากพื้นฐานของคนในแผ่นดินโดยเฉพาะนักการเมือง
เห็นว่ามีความจำเป็นต้องมานั่งพูดคุยทำความเข้าใจกัน สร้างความรัก ความผูกพัน ดีกว่าสร้างความเคลื่อนไหวในลักษณะความไม่พอใจให้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี จึงต้องค่อยๆ ประคับประคอง ส่วนการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจากการเป็นรองนายกฯ ไปลงสมัครรับเลือกตั้งก็เป็นธรรมดา เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหา ถูกยุบ และ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ มีปัญหา นายสุเทพ อาจขึ้นมาเป็นนายกฯ แทน ถือว่าเป็นความคิดหนึ่งเท่านั้น