ใช้เสี่ยงเหน่อโทร.191ขู่บึ้ม รพ.ศิริราช ตำรวจ-ทหาร 3เหล่าทัพระดมตรวจทั้งบก-น้ำ ไม่พบวัตถุต้องสงสัย สั่งเพิ่มความเข้มป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เผยโทร.จากตู้สาธารณะหน้าช่อง 5 "สุเทพ"เรียกหน่วยความมั่นคงถกด่วน "มาร์ค"ยันไม่มีเหตุน่าเป็นห่วง ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) พล.ต.อ.วิเชียรให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า นายสุเทพให้มารายงานผลการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา เรื่องไหนที่ยังไม่พร้อมและไม่สามารถปฏิบัติตามแผนได้ เช่น หน่วยอีโอดี (หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด) ที่มีกำลังไม่พอ ขาดอุปกรณ์ และยานพาหนะ จะรีบสนับสนุนให้
โทร.191ขู่วางบึ้มรพ.ศิริราช
แหล่งข่าวจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 กันยายน
ได้มีผู้ชายโทรศัพท์เข้ามาที่หมายเลข 191 หมายเลขแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) หรือตำรวจ 191 ระบุว่าจะมีการวางระเบิดภายในโรงพยาบาล (รพ.) ศิริราช ถนนพรานนก แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ขอให้ระวังให้ดี แต่จากการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของ บช.น.และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ ที่ตรวจสอบบริเวณรอบ รพ.ศิริราช และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งทางบกและทางน้ำ ไม่พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยหรือระเบิดตามที่มีการโทรศัพท์เข้ามาแจ้ง อย่างไรก็ตาม มีการเพิ่มความเข้มงวด ทั้งเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่และความเข้มในการตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายลึกลับที่โทรศัพท์เข้ามาสร้างความปั่นป่วนนี้ ใช้โทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ลักษณะการพูดของชายคนดังกล่าวมีสำเนียงออกเหน่อๆ สันนิษฐานว่าน่าจะมีเจตนาป่วนเมือง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และสอบถามพยานแวดล้อม เพื่อติดตามจับกุมชายลึกลับดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงและด้านการข่าว ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ผอ.สขช.) เข้าร่วมประชุม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
"ผมได้รายงานเพิ่มเติมให้ทราบถึงปัญหาการทำงานของหน่วยบอมบ์เซ็นเตอร์ ที่ทำหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่ยังประสานงานกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงสั่งให้ตั้งศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ร้ายแรง โดยปรับการทำงานของบอมบ์ดาต้าเซ็นเตอร์เดิม บูรณาการด้านข้อมูล เพื่อให้การคลี่คลายคดีและติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุระเบิดมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าศูนย์ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าศูนย์" พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว
ใช้เสี่ยงเหน่อโทร.191ขู่บึ้ม รพ.ศิริราช ตำรวจ-ทหาร 3เหล่าทัพระดมตรวจทั้งบก-น้ำ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมรับมืออารักขาบุคคลสำคัญ หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุจะเกิดเหตุระเบิดถึงสิ้นปี
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ได้ย้ำกับฝ่ายปฏิบัติอยู่แล้วว่า ต้องเตรียมรับมือ เพราะประเมินสถานการณ์ว่าจะมีส่วนที่ก่อเหตุขึ้นก็ได้ จึงได้ตั้งศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ร้ายแรงขึ้นมา เพื่อให้การทำงานมีความชัดเจน และประสานงานกันมากขึ้น
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) เรียกร้องให้เปิดเผยชื่อนักการเมือง 5-6 คน ที่ระบุว่า เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรง พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า "ขอตอบแค่นี้ก่อน แต่มีหลักฐานคือดีเอ็นเอ (สารพันธุกรรม)"
เมื่อถามว่า เป็นดีเอ็นเอของนักการเมืองใช่หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า เป็นหลักฐานทั่วไป ที่จะเอาไปใช้เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดความชัดเจน
ด้าน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวถึงการตั้งศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ร้ายแรงว่า เดิมมีศูนย์นี้อยู่แล้ว แต่ ผบ.ตร.ให้มาจัดระบบทำงานให้ประสานกัน เพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะการทำงานนอกจากจะเชื่อมโยงกับในประเทศแล้ว ยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายของต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชียอีกหลายประเทศด้วย เมื่อถามว่า ศูนย์นี้จะทำให้จับคนร้ายได้จริงหรือไม่ เพราะเหมือนตั้งขึ้นมาเพื่อซื้อเวลาเท่านั้น พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ไม่ตอบคำถาม รวมทั้งไม่ตอบกรณีที่ถามว่า การตรวจดีเอ็นเอที่เชื่อมโยงถึงนักการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสุเทพเรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงประชุม และให้จัดตั้งศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ร้ายแรงว่า
ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง เป็นการทำกลไกให้มีความกระชับและดูแลสถานการณ์ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย เท่าที่ทราบได้มีการมอบหมายคนที่จะไปทำงานเฉพาะด้าน แต่จะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทั้งหมดมาดูร่วมกับนายสุเทพ