“ชัชจ์” ปูดคน ศอฉ.บงการบึ้มป่วนเมือง

อ้างข้อมูลภายในชี้ “ตำรวจ” มือบึ้มป่วนเมือง คน ศอฉ. สั่งการเบื้องหลัง ผลาญงบเดือนละร้อยล้าน จี้ “มาร์ค-เทพ” เคลียร์

วันนี้ (30ก.ย.)  ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก ว่าที่รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการทำงานของรัฐบาล (คตร.) ว่า คตร.ได้ประเมินสถานการณ์ระเบิดรายวันที่เกิดขึ้น โดยได้รับข้อมูลที่น่าสนใจจากกลุ่มคนที่อยู่ในวงการนักสืบของตำรวจ ที่ตนเคยเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลางคือในเหตุระเบิดทุกครั้งกล้องซีซีทีวี ที่มีอยู่ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ จะเสียทุกครั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้ เหมือนเหตุการณ์การยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสงสัยว่าก่อนหน้าที่จะมีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ได้มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งตนมีข้อมูลที่ชัดเจน ภายในวงการนักสืบว่าสาเหตุหนึ่งเป็นระเบิดเพื่อดิสเครดิตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) 
   
“ โดยเป็นฝีมือของตำรวจกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้มีการโยกย้าย ผบช.น.หรือเพื่อให้มีตำแหน่งว่าง และกลุ่มเดียวกันนี้ก็ยังปฏิบัติการณ์อยู่จนถึงวันนี้ โดยมีผู้ได้ผลประโยชน์ในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง เนื่องจาก ศอฉ. มีการใช้งบประมาณเดือนละนับร้อยล้านบาท ซึ่งพรรคเพื่อไทย ทราบมาว่าจะมีการเบิกจ่ายกันเป็นรายสัปดาห์ด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และผอ.ศอฉ. ควรชี้แจงให้ชัดเจน” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว 
   
พล.ต.ท.ชัชจ์ กล่าวว่า หากนายอภิสิทธิ์ จริงใจในการแก้ไขสถานการณ์ ก็เชื่อได้ว่าเสียงระเบิดจะสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจ โดยเฉพาะกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาพูดว่าจะมีระเบิดไปถึงสิ้นปี 2553  และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ระบุว่ามีนักการเมือง 5-6 คน ซึ่ง คตร.มองว่ารัฐบาลพยายามโยนเรื่องระเบิดมาให้กับฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีกับสังคมไทย เพราะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวง