นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันที่ 28 กันยายนถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
เตรียมส่งลงเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 แทนนายชุมพล กาญจนะ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิเนื่องจากแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อันเป็นเท็จ ว่า ขอบคุณทุกเสียงวิจารณ์ที่มีมาหลายขนาน แต่ขั้นตอนการพิจารณาชื่อผู้สมัคร ยังต้องผ่านคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เป็นประธาน และคณะกรรมการบริหารพรรคในขั้นสุดท้าย โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือเสนอชื่อคนอื่นขึ้นมาก็ได้ คนในปชป.ทุกคนต้องเคารพกฎเกณฑ์ ตนเป็นสมาชิกพรรคมา 33 ปี ถ้าพรรคบอกว่าไม่ให้ลง ก็ไม่ลง ถ้าบอกว่าให้ลง แต่ต้องลาออกจากรองนายกฯ ตนก็อาจจะลาออกจากรองนายกฯ ถ้าพรรคบอกให้เป็นอะไร ก็เป็น ถ้าบอกไม่ให้เป็นอะไรเลย ก็กลับบ้าน
เมื่อถามว่าหากปชป.ให้ลาออกก็พร้อมพิจารณา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเป็นมติพรรคก็ต้องออก
เมื่อถามว่า ถ้าให้เลือกระหว่างการเป็นส.ส.กับรองนายกฯจะให้น้ำหนักกับอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า “ถ้าผมบอกว่าให้น้ำหนักกับรองนายกฯ พรุ่งนี้คุณก็พาดหัวว่า เทือกยึดติดกับตำแหน่ง ถ้าผมบอกว่าให้น้ำหนักกับส.ส.ก็จะบอกว่า เทือกปัดความรับผิดชอบ ผมก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เรื่องนี้ผมเข้าใจตั้งแต่โดนเขาเสนอชื่อแล้วว่า ทำอะไรก็ต้องโดนทั้งนั้น”
มื่อถามว่าวันที่ 27 ก.ย.เคยยืนยันว่าจะลงเลือกตั้งส.ส.ทั้งที่เป็นรองนายกฯทำไมกลับคำ
นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าตนตัดสินใจได้เอง ตนคิดว่าแยกแยะได้ แต่เมื่อมีคนวิจารณ์ก็ต้องฟัง ไม่ว่าจะนายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ วิจารณ์ ตนก็เข้าใจได้ เพราะเขาอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะตนยืนยันว่าจะหาเสียงเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ แต่ถ้าคนบอกว่าอย่าไปลงหาเสียงเลย แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็จะมีคนหาว่าอวดดีอีก คือต้องหาเรื่องด่ากันจนได้
เมื่อถามว่าเหตุใดไม่ทำเหมือน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ที่ประกาศไม่รับตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า จะให้ลาออกจากการเป็นนักการเมืองเลยหรือครับ พร้อมเลย วันนี้อายุ 62 ปีจะให้กลับบ้านเลยก็ได้ จะไปยึดติดกับอะไรนักหนา รับปากกับลูกไว้ว่า 60 ปีจะเลิกเล่นการเมือง นี่มันก็เลยมา 2 ปีกว่าแล้ว