นายกฯหวังไทย-กัมพูชาเดินหน้าฟื้นความสัมพันธ์-เคลียร์ปัญหาเขตแดนชัดก่อนถึงเดือน มิ.ย.54
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า หลายเรื่องที่ตนได้พูดคุยกับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนสำคัญอยู่แล้วในการฟื้นความเชื่อมั่น ความร่วมมือ และความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งได้เดินหน้าในเรื่องที่พูดคุยกันไว้ ทั้งนี้ หลักที่มีการพูดคุยกันคือ 1.อย่านำปมขัดแย้งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาเป็นปัญหาของความสัมพันธ์ในภาพรวมทั้งหมด 2.เรื่องใดที่เป็นปมปัญหาอยู่ และมีกลไกของการแก้ไขหรือมีข้อตกลงกันอยู่ ก็ขอให้ดำเนินการตามกลไกนั้น อย่าให้ลุกลามบานปลายออกไป 3.ถ้ามีการส่งเสริมเรื่องของการแลกเปลี่ยน การเยือน และการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น เรื่องของวัฒนธรรม กีฬา เป็นต้น ให้มากขึ้น ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีระหว่างประชาชนกับประชาชน
เมื่อถามว่าคิดว่าจะทำความเข้าใจกับภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่
เพราะดูเหมือนเขารอคอยให้มีการแก้ปัญหาที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดและมีรูปธรรมมากกว่านี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ง่ายๆ เพราะปัญหาพื้นฐานยังมีอยู่ตราบเท่าที่มีข้อโต้แย้งกัน โดยเราเห็นว่าเส้นเขตแดนอยู่ที่หนึ่ง แต่เขาเห็นว่าอยู่อีกที่หนึ่ง มันก็ไม่มีอะไรที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด และจะยังเป็นปัญหาจนกว่ามีแนวทางที่จะหาข้อยุติได้ แต่เรามีกระบวนการที่เราทำอยู่ และตนยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการในแต่ละเรื่องนั้นได้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดและอธิปไตยของชาติอยู่แล้ว อีกทั้งต้องทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยต้องมีการคาดการณ์ด้วยว่าการเลือกดำเนินการด้วยวิธีใด จะมีผลกระทบกลับมาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างไร เมื่อถามต่อว่ารวมถึงปัญหาการละเมิดบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 ในเรื่องการอ้างสิทธิ์พื้นทับซ้อน จะแก้ได้ด้วยเช่นกันใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่
ต่อข้อถามว่าจะกลายเป็นการชะลอการเผชิญหน้ากันหรือไม่
เพราะสุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายอาจต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้งเกี่ยวกับปัญหาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนจะถึงเดือน มิ.ย.2554 เราหวังว่าการทำงานในหลายด้านจะช่วยให้มันมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเราก็พยายามหาจุดในการแก้ปัญหาร่วมกันได้