ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 27 กันยายน ถึงผลสำรวจของเอแบคโพลล์ ถึงสถานกาาณ์ทางการเมืองว่าหากมีการเลือกตั้งและยุบสภาวันนี้ประชาชนมีความเห็นอย่างไร
ซึ่งพรรคก็น้อมรับไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผลที่ออกมาว่าจะมีเลือกพรรคประชาธิปัตย์ถึง 50.7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีสำหรับพรรคและพรรคก็เจียมเนื้อเจียมตัวและพร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งความนิยมในภูมิภาคเหนือ-อีสาน คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์ก็ดีขึ้นตามลำดับ
แต่ที่น่าดีใจที่สุดและมีกำลังใจในการทำงานของรัฐบาลคือ คะแนนนิยมในภาคอีสานที่พรรคเพื่อไทยได้ 49 เปอร็เซ็นต์ พรรคประชาธิปัตย์ได้ 12.1 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าสูงขึ้นกว่าการเลือกตั้งในปี 50 ที่พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในระดับไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าโพลล์ที่ออมาจากหลายสำนัก ก็อาจป็นดัชนีชี้วัดว่ารัฐบาลทำงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดความกังวลจนต้องทำโพลล์ตลอดเวลา จึงทำให้พรรคตเพื่อไทยตื่นตระหนกตกใจ และพยายามเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกทางเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองให้ได้ เพราะหากปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไปความนิยมก็อาจแซงหน้าพรรคเพื่อไทยได้
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เชื่อว่าหลังมีการใช้งบประมาณปี 54 ไป 3-6 เดือนก็อาจจะทำให้เห็นเม็ดเงินลงไปในพื้นที่และโครงการต่างๆ เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ก้อาจจะทำให้คะแนนนิยมการยอมรับของรัฐบาลมากขึ้นตามละดับ และคงจะทำให้พรรคเพื่อไทยวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่พรรคไปสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งในต่างจังหวัดได้รับรู้จากการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ก็สามารถเข้าใจได้ว่าถ้ายังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยต่อไปก็อาจจะทำให้บ้านเมืองขาดความสงบสุขได้