อานันท์ จี้รัฐบาลเร่งเครื่องสางปมยึดอำนาจ

ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์ค เมื่อเวลา 11.30 น. นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลและ คมช. ในช่วง 2 เดือนว่า ตนคงไม่มีข้อเสนออะไร แม้ว่าจะมีบางอย่างคล้ายคลึงกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่คล้ายคลึงกัน เมื่อถามว่าการที่มีหลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลและ คมช.

อยู่ในช่วงขาลง มีสาเหตุมาจากอะไร นายอานันท์ กล่าวว่า คงเป็นผลสะท้อนจากคนที่มีความอึดอัดใจมาก และมีความรู้สึกรุนแรงต่อรัฐบาลทีแล้ว เมื่อมีรัฐบาลใหม่มาจึงเป็นสัญชาติญาณและปฏิกิริยาของคนกลุ่มนี้ที่จะรู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมันช้าไป อย่างไรก็ตามตนไม่อยากพูดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง

แต่คิดว่ารัฐบาลก็คงพยายามแก้ไขใน 4 ประเด็นที่เป็นเหตุของการยึดอำนาจ แต่คงจะต้องเร่งเครื่องกันมากกว่านี้ แต่เราต้องเข้าใจว่าปัญหาต่าง ๆ ไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วจะทำได้ทันทีเหมือนเปิดปุ๊บติดปั๊บ แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรมในกรุงเทพฯ ทำอีก 10 ปีก็ไม่มีทางสำเร็จ หรืออย่างปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ตนแน่ใจว่าคงต้องใช้เวลา 3-4 ปี

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าขณะนี้นานาชาติเริ่มเชื่อมั่นกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทยหรือยัง นายอานันท์ กล่าวว่า นานาชาติก็เริ่มเข้าใจแล้ว อย่าไปห่วงเขามาก อย่าไปคิดว่าพูดคุยกับบุชหน่อยก็รู้สึกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแล้ว อย่าไปคิดถึงขั้นนั้น เพราะมันไม่มีอะไรเลย การเมืองระหว่างประเทศก็มีจับมือกัน ยิ้มให้กัน เพราะมันเป็นพิธีการที่ต้องพูดแบบนั้น ใครบ้างจะไปบอกว่าสนับสนุนให้มีการรัฐประหาร เขาพูดไม่ได้ ดังนั้นอย่าไปคิดอะไรมาก คนไทยชอบตื่นฝรั่ง

เมื่อถามถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรจะยึดรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นแนวทางหรือไม่ นายอานันท์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังมาทุกคนก็ค่อนข้างมีฉันทามติว่าหากจะมีการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ควรไปเริ่มร่างฉบับใหม่ขึ้นมา แต่ควรจะใช้ปี 40 เป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิประชาชน เพราะปัญหาที่ผ่านมา ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นเพราะรัฐธรรมนูญบกพร่อง อาจเป็นเพราะรัฐธรรมนูญดีเกินไป แต่คนใช้ไม่ค่อยดี เหมือนกับของทุกอย่าง เช่นยาดี แต่เมื่อคนใช้ใช้ไม่เป็นหรือใช้ผิด เขาบอกให้ทานวันละ 3 เม็ด ดันทานวันละ 4 เม็ด หรือวันละเม็ด ยามันก็ไม่มีฤทธิ์

เมื่อถามว่าหากแก้ไขแล้วกลับไปสู่ระบบเดิมเหมือนการถอยหลังเข้าคลอง เช่นไม่ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งจะทำอย่างไร นายอานันท์ กล่าวว่า ส.ว.จะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญคือต้องดูว่าควรจะมีส.ว.อยู่อีกหรือไม่ ข้อสำคัญคืออย่าให้ ส.ว.เป็นสุสานของอดีตข้าราชการ เพราะในหลักประชาธิปไตยไม่ควรจะมีสภาข้าราชการ และยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าจะต้องนำไปคิด.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์