´แก้วสรร´ ติง คตส.อย่าใจร้อน

การตรวจสอบทุจริตโครงการของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆในคณะกรรมการตรวจสอบ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่มีความคืบหน้าถึงขั้นเตรียมตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยจะเสนอต่อที่ประชุม คตส. ในวันที่ 20 พ.ย.นั้น เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. ให้สัมภาษณ์ว่า คณะอนุกรรมการชุดต่างๆไม่ได้ทำเป็นเอกสารรายงาน

แต่จะเสนอต่อที่ประชุม คตส.โดยตรง ถ้าทุกอย่างพร้อมก็ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ทันที ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาเจอปัญหาอะไรบ้าง นายแก้วสรรตอบว่า คตส.มีความแตกต่างทางความคิด บางคนใจร้อน แค่เห็นว่าสัญญาผิด ก็จะเอาแล้ว แต่ไม่รู้จะเอาผิดกับใคร บางคดีไม่ได้ทุ่มเทเท่าไหร่ ถึงได้บอกตั้งแต่แรกต้องทำสำนวนให้แน่นเช่น โครงการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ถ้าทำสำนวนดีๆมัดผู้เกี่ยวข้องได้แน่ เปรียบเสมือนคนทอดแหเห็นปลาช่อนผุดอยู่ตรงหน้า หากทอดแหเป็นก็ได้ปลา แต่ถ้าคนทอดไม่เป็นปลาก็หลุดได้

นายแก้วสรรกล่าวอีกว่า การปราบทุจริตทุกฝ่ายทั้งรัฐมนตรีและบอร์ดรัฐวิสาหกิจจะต้องดาหน้าช่วยกันตรวจสอบ ไม่ใช่โยนให้ คตส.ที่มีแค่ไม่กี่คน ทำงานกันเหนื่อยมาก และยังมีคดีอีกเยอะที่น่าจะทำ แต่ไม่มีกำลัง อำนาจบอร์ดรัฐวิสาหกิจสามารถสอบลงลึกได้มากกว่า

แล้วสรุปส่งให้ คตส. จะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ตอนนี้รอดูทหารที่เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจอยู่ ถ้าช่วยตรวจสอบจะสามารถจับปลาได้ เมื่อถามว่าปัญหานี้รัฐบาลและ คมช.ทราบหรือไม่ นายแก้วสรรตอบว่า เคยสื่อสารถึงกัน เขาคงคิดอะไรอยู่ และเมื่อส่งทหารเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจก็คิดว่าคงเอาแล้ว

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. และประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อที่ดินย่านรัชดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายชวน หลีกภัย และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาหารือนั้น หวังว่าจะได้ข้อมูลและกระบวนการคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ คตส. ตรวจสอบอยู่เช่น ถามว่าถ้าเป็นนายกฯในตอนนั้นจะทำแบบนี้หรือไม่

คิดว่าการจัดซื้อที่ดินมีความถูกต้องหรือไม่ แล้วจะนำมาประกอบการพิจารณาว่ามีความถูกต้องตามกฎหมาย ตามความเห็นที่ คตส.ได้รับหรือไม่ ส่วนการที่นายบรรหารและ พล.อ.ชวลิต ค่อนข้างสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น คตส.ไม่สนใจว่าใครจะมีความสนิทสนมกับใคร แต่การหารือร่วมกันจะบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งสามคนจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการแสดงความเห็น เพราะการทำงานของ คตส.จะต้องเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบเพื่อความโปร่งใส

คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตรวจสอบโครงการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน 232 คัน มูลค่า 465 ล้านบาทว่า วันที่ 20 พ.ย.นี้ สตง.พร้อมตัวแทนของโรงพยาบาลกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ

โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุข จะไปร่วมกันเป็นสักขีพยานเพื่อตรวจสอบสเปกรถพยาบาลที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือว่า การจัดซื้อนั้นถูกต้องตามสเปกที่กำหนดไว้ในทีโออาร์หรือไม่ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นกันเลยว่าผิดหรือถูก

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ