สภาฯ ดันร่าง พ.ร.บ.กสทช.สุดลิ่ม ชงตั้ง กมธ. 2 สภา วิปรัฐบาลโวกลางปี 54 เห็นหน้า กก. ด้านรมว.ไอซีทีเผยเตรียมยื่นศาล รธน.ตีความอำนาจ กทช
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหลังการพิจารณากระทู้ถามทั่วไปและกระทู้ถามสดที่ประชุมได้เข้าสู่วาระเรื่องที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.องค์ กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการตั้ง กสทช.
ทั้งนี้ สาระสำคัญที่มีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการวุฒิสภา คือ ได้เพิ่มจำนวนคณะกรรมการ กสทช. จาก 11 คนเป็น 15 คน จากฝ่ายความมั่นคง 2 คน และในส่วนของการพัฒนาสังคมเพิ่มขึ้น 2 คน นอกจากนั้น ยังมีการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและที่มาของ กสทช.
จากนั้น ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่มีการอภิปรายไปในทิศทางเดียวกันคือ ไม่เห็นด้วยกับหลายมาตราที่วุฒิสภาได้แก้ไข และเสนอให้ตั้งกรรมาธิการร่วมกันของ 2 สภา แต่มี ส.ส.อยู่ในห้องประชุมบางตา ประธานที่ประชุมจึงแจ้งว่า ยังมีสมาชิกแสดงความจำนงจะขออภิปรายจำนวนมาก ขณะเดียวกันวันนี้ใช้เวลาประชุมมานานจึงขอเลื่อนการอภิปรายต่อในสัปดาห์หน้าและสั่งปิดการประชุมทันที
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แถลงว่า ขอชี้แจงกรณีที่พูดกันมากว่าประเทศไทยล้าหลังกว่าประเทศอื่นมากที่ไม่สามารถมี 3 จีใช้ได้ ซึ่งความล้าหลังหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ 3 จี เนื่องจากวันนี้คนไทยใช้โทรศัพท์ส่งผ่านข้อมูลประมาณ 5 ล้านเครื่อง มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 16 ล้านคน จากขณะนี้บริษัทเอกชนทั้ง ดีแทค เอไอเอส และบริษัทอื่นๆได้พัฒนาโครงข่ายล้ำหน้าไปแล้ว
จากนี้ สิ่งที่สามารถทำได้เร็วคือ ขบวนการคู่ขนานซึ่งในวันที่ 29 ก.ย. ส.ส. จะลงคะแนนเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกัน ซึ่งตนได้ขอร้องในส่วนของคณะกรรมาธิการร่วมฯ ให้ประชุมแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะนำไปสู่การประกาศใช้กฎหมายได้ก่อนสิ้นปี
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่าข้อสงสัยในอำนาจของ กทช.นั้น จะดำเนินการให้มีความชัดเจนก่อนสิ้นปีนี้เช่นกัน โดยจะหารือกับรัฐบาลว่าจะให้ใครเป็นผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กทช.มีอำนาจดำเนินการหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการไม่สามารถประมูล 3 จีหรือไม่ นายจุติ กล่าวว่า ความเสียหายอาจอยู่ในรูปบริษัทเอกชนที่ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้ว ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงจะต้องไปถามจากภาคเอกชน ส่วนของรัฐบาลนั้นได้เดินหน้าขยายบอร์ดแบรนด์ตามนโยบายมาตลอด
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการ 3 จี คงไม่มีปัญ หาอะไร เนื่องจาก กสทช. จะเริ่มต้นได้ต้นปีหน้าอยู่แล้ว ขอยืนยันรัฐบาลได้เดินหน้าทั้งเรื่องบอร์ดแบรนด์ให้เสร็จภายใน 2 ปีโดยกระทรวงไอซีทีได้ใช้เครือข่ายของรัฐบาลที่มีอยู่ ทั้งปตท. กฟผ. กฟน. ทีโอที กสท. เคเบิล ใยแก้วนำแสง เครือข่ายไร้สายซึ่งสามารถขยายเครือข่ายบริการให้ประชาชนเพิ่มขึ้นในราคาที่ถูกลงอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันหากต่อไปเปิดให้เอกชนสามารถเช่าเครือข่ายยิ่งจะทำให้ประชาชนได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ถูกลงและครอบคลุมทุกพื้นที่ได้อีก นอกจากนั้น ในปี 2554กระทรวงไอซีทีมีนโยบายเพิ่มศูนย์ไอซีทีชุมชนอีก 1800 แห่งครอบคลุมทุกพื้นที่อยู่แล้ว
ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปรัฐบาลกล่าวว่าในวันพุธหน้าจะเตรียมองค์ประชุมให้พร้อมสำหรับการลงมติ ร่างพ.ร.บ. กสทช. ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าฝ่ายนิติบัญญัติเองได้ดำเนินการนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาโดยมีการคุยกันแล้วว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 2สัปดาห์ เพื่อประชาชนมั่นใจว่าจะได้เห็นคณะกรรมกา