“เทพเทือก”เร่งหาเก้าอี้ตอบแทน“สมคิด”

“สุเทพ” แย้มหาเก้าอี้ให้ “สมคิด” นั่งเก้าอี้ ผบช. หรืออาจเสียบแทน “เจตน์” บอกโล่งใจซาอุฯ ไฟเขียววีซ่าฮัจญ์ทันที

วันนี้ (23 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการ ก.ตร. เพื่อพิจารณาหาตำแหน่งรองรับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ที่ประกาศไม่รับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ว่า ในเมื่อ พล.ต.ท.สมคิด ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่า ต้องการช่วยแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่รับตำแหน่งที่สูงขึ้น จึงต้องขอบคุณ พล.ต.ท.สมคิด ที่แสดงน้ำใจ ช่วยแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุม ก.ตร. วันที่ 24 ก.ย. เวลา 13.00 น. ซึ่งจะทำให้เรื่องทั้งหลายยุติลงได้อย่างรวดเร็ว และจะเกิดผลดีกับการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ทาง ผบ.ตร.จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการพิจารณาแต่งตั้ง และนำเสนอให้ที่ประชุม ก.ตร.ให้ความเห็นชอบ เมื่อ ก.ตร.พิจารณาอย่างไรแล้ว ก็จะดำเนินการตามนั้น

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในการพิจารณานั้น คงไม่ใช่ให้ตำแหน่งที่ลดลงกว่าตำแหน่งเดิม เพราะ พล.ต.ท.สมคิด มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ ดังนั้น ก็ต้องไปเป็นผู้บัญชาการที่ใดที่หนึ่ง หรือเป็นตำแหน่งที่เทียบเท่า จะลดกว่าตำแหน่งเดิมไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการเปิดตำแหน่ง ผบช. เป็นกรณีพิเศษ ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อไม่ให้โผเก่ากระเพื่อม

นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ก.ตร.จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจดำเนินการ และต้องมีมติออกมาชัดเจน บางครั้งอาจจะมีวิธีการที่ทำแล้วไม่กระทบภาพรวมมากนัก เช่น ขณะนี้ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี ซึ่งมีอาวุโสในลำดับถัดไป หากขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ตำแหน่งเดิมก็จะว่างลง พล.ต.ท.สมคิด ก็อาจจะได้รับการพิจารณาไปอยู่ตรงนั้นได้ แต่ตนตัดสิน หรือสั่งการไม่ได้ ต้องให้ที่ประชุม ก.ตร.เป็นผู้พิจารณา

เมื่อถามว่า จริงหรือไม่ที่ข่าวว่าทางการซาอุฯ ยื่นเงื่อนไขไม่ให้มีการเลื่อนชั้นยศให้ พล.ต.ท.สมคิด ให้สูงขึ้น นายสุเทพ ปฎิเสธว่า ไม่จริง

และที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้รับเอกสารใด ๆ จากสถานทูตซาอุฯ เท่าที่ได้พบกับอุปทูตซาอุฯ 2 ครั้ง ก็ไม่ได้ยื่นเอกสารใด ๆ ให้ตน เพียงแต่ซักถามขอคำอธิบายอย่างที่ตนเคยชี้แจงให้ฟังแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ามีนักการเมืองไทยอยู่เบื้องหลังคอยไปยุยงให้ทางการซาอุฯ แสดงความไม่พอใจ และมีท่าทีแข็งกร้าวต่อทางการไทยอย่างต่อเนื่องนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรที่เป็นหลักฐานยืนยันว่า ใครไปทำอะไร แต่เราเป็นคนไทย สิ่งที่เราควรจะต้องร่วมมือกันคือดูแลผลประโยชน์ของประเทศไทย

“วันนี้ผมต้องขอขอบคุณ พล.ต.ท.สมคิด และรู้สึกโล่งใจที่ประเด็นเรื่องศาสนาจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ความจริงผมก็อึดอัดใจอยู่เหมือนกัน เพราะมีเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญ แต่ถูกระงับยับยั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชน เมื่อปัญหานี้ได้รับการแก้ไขคลี่คลายไปได้ ผมเหมือนคนไทยทั้งหลายที่รู้สึกดีใจ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอะไรที่ให้เกิดผลในทางบวกเป็นเรื่องที่ดีกับบ้านเมือง และประชาชน และทราบว่า ทางการซาอุฯ ได้เร่งดำเนินการออกวีซ่าให้กับผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเร็วขึ้น เพื่อไปชดเชยกับการดำเนินการที่ล่าช้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และคิดว่าชาวไทยมุสลิม จำนวน 12,000 คน คงจะได้เดินทางไปแสวงบุญทั้งหมด” นายสุเทพ กล่าว.