คมชัดลึก :"สนธิ"ยก 4 ข้อ หลักปรองดอง พธม.เน้น ‘รักษานิติรัฐ-ปฏิรูปนักการเมือง-กำจัดคอรัปชั่น-ค้านนิรโทษกรรม"ภท." ด้านเสธ .หนั่น รับนิรโทษกรรมต้องมีบทลงโทษก่อน
(22ก.ย.) เวลา 09.45 น . ที่บ้านพระอาทิตย์ นาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ร่วมแถลงข่าวภายหลังการหารือเรื่องการสร้างความปรองดอง โดยบรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างชื่นมื่น
โดยนายสนธิ กล่าวว่า หลักการปรองดองที่พล.ต. สนั่น หารือกับแกนนำพันธมิตรฯ นั้น ตนเองและพล.ต. สนั่น เห็นพ้องต้องกันดังนี้
1. ต้องรักษาหลักนิติรัฐอย่างเด็ดขาด โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุดทำลายหลักนิติรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรงคือการใช้ความรุนแรง ส่วนทางอ้อมต้องหยุดใช้พรรคการเมืองมาแก้ปัญหาของตัวเอง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักนิติรัฐ เช่น พันธมิตรฯ ถูกข้อหาก่อการร้าย พวกเราก็ยอมรับ แต่อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ถูกหมายจับเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ดังนั้นไม่มีเรื่องสองมาตรฐาน เพราะต่างก็ถูกดำเนินคดีด้วยกันหมด โดยเฉพาะตนเองต่อสู้คดีต่างๆ มาตลอดในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่า หลักนิติรัฐจะตัดสินอย่างไรทุกคนต้องยอมรับ ไม่มีการปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น
“ ขอย้ำว่าพันธมิตรฯยึดหลักนิติรัฐ โดยจะสู้ทุกช่องทางตามกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายด้วย และการนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้เมื่อกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดลงแล้ว โดยต้องมีโทษก่อน จึงจะมีการนิรโทษกรรมได้ ” นายสนธิกล่าวและว่า 2. การธำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ โดยการหยุดการจาบจ้วงและต้องแสดงออกถึงการแยกความสัมพันธ์กับกลุ่มที่จ้างจ้วงสถาบันอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว โดยต้องแสดงออกไม่สังฆกรรมกับคนเหล่านี้ 3. ต้องต่อต้านการคอรัปชั่นทุกประการ โดยต้องปฏิรูปนักการเมือง เพราะปัญหาใหญ่มาจากนักการเมือง และ 4. ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมของ นายเนวิน ชิดชอบ เป็นการหาเสียงเท่านั้น เพราะด่าแต่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งพันธมิตรฯไม่เห็นด้วย เพราะเป็นกฎหมายที่มีวาระซ่อนเร้น และโดยทั่วไปแล้วประชาชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอยู่แล้ว
ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวมีวาระซ่อนเร้นที่มาตรา 6 ว่า ด้วยการนิรโทษเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นมาตราที่ร้ายกาจที่สุด
เพราะมีการยกโทษให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในกระบวนการ ซึ่งหมายถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวใจของกฎหมายอยู่ตรงนี้ที่ต้องการนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ และนักการเมืองที่ทำผิดในตอนนั้นให้พ้นผิด เราคงเห็นด้วยไม่ได้ และพูดได้เลยว่าพันธมิตรฯจะคัดค้านอย่างเต็มที่ เพราะหลักการที่พันธมิตรฯเสนอ และถ้าคนเสื้อแดงทำได้เราก็พร้อมจะปรองดองด้วย โดยเฉพาะนักการเมืองต้องมีการปฏิรูปตัวเอง ให้เข้ามาอย่างโปร่งใส และกระบวนการตรวจสอบนักการเมืองต้องเข้มข้น และเป็นนักการเมืองที่มีจริยธรรมหากต้องการรักษาอาชีพนักการเมืองไว้
ด้านพล.ต.สนั่น กล่าวว่า การนิรโทษกรรมต้องให้ศาลตัดสินก่อน เพราะตนเองมีประสบการณ์มาแล้ว
โดยตนเองถูกตั้งข้อหากบฏศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในช่วงเดือน เม.ย. 2520 ตนเองก็ต้องจำคุก 8 เดือน 8 วัน ถึงได้รับการนิรโทษกรรม ดังนั้นหลักการนิรโทษกรรมต้องมีการต้องโทษก่อน อย่างไรก็ตามตนเองยังไม่เห็นรายละเอียดที่พรรคภูมิใจไทยเสนอว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับหลักการ 4 ข้อทั้งหมดและจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายต่อไป โดยเรื่องสถาบันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตามการพูดคุยกับคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองตอนนี้ยังไม่มีการลงลึกในรายละเอียด โดยต้องมีการประมวลข้อเสนอต่างๆก่อน
“ วันนี้ทุกคนต้องพยายามลืมเรื่องเก่า ถ้าหากคิดถึงประเทศต้องพยายามเข้าใจกัน และลืมความหลังต่างๆ โดยเอาประเทศเป็นหลักเพื่ออนาคตอีก 20 - 50 ปีข้างหน้า ถ้ามัวแต่อยู่แบบนี้ประเทศก็ไปไม่ได้ ที่ผมทำเป็นหน้าที่ไม่ได้เกี่ยวกับความต้องการทางการเมือง และคงไม่มีใครให้ผมเป็นนายกฯ แน่นอน ” พล . ต . สนั่น กล่าว
“เสธ.หนั่น”พบพธม.สนธิยก4ข้อปรองดอง
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!