คมชัดลึก : "สมคิด"แถลงไม่รับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ยันไม่ได้ถูกกดดัน แจงต้องการยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ วอนอุปทูตซาอุฯให้ความเป็นธรรมเรื่องคดี ระบุกระบวนการสอบสวนคดี "ดีเอสไอ" มีพิรุธ
เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 22ก.ย.ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5
เปิดแถลงข่าวประกาศไม่ขอรับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) ต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงกว่า 40 คนที่มารับฟังการแถลงข่าว โดยพล.ต.ท.สมคิดยืนยันชัดว่าไม่ได้ถูกกดดันจากฝ่ายใด แต่ต้องการยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศซึ่งมีการดึงเอาพี่น้องมุสลิมเข้ามาเป็นเงื่อนไข ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงพล.ต.ท.สมคิด มีสีหน้าที่ราบเรียบ ก่อนแถลงข่าวพยายามที่จะแสดงออกว่าอารมณ์ดีด้วยการกล่าวทักทายกับผู้สื่อข่าวด้วยรอยยิ้มและกล่าวประโยคแรกว่า "ทานข้าวกันมาหรือยัง" จากนั้นเริ่มเปิดแถลงข่าวแบบม้วนเดียวจบ ก่อนเปิดให้ผู้สื่อข่าวซักถามใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 40 นาที
พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า ตามที่ปรากฎข่าวว่านายนาบิล ฮุสเซน อัชรี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย
แสดงความไม่พอใจในการแต่งตั้งตนให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยกล่าวหาว่าอยู่ระหว่างต้องคดีในการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา จากความไม่พอใจข้างต้น อาจจะกระทบต่อพี่น้องมุสลิมจำนวน 13,000 คนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียในเดือนตุลาคมปีนี้ ขณะเดียวกันมีข้อเรียกร้องให้ตนแสดงความเสียสละไม่รับตำแหน่งสูงขึ้นเพื่อเห็นแก่ความสำคัญระหว่างประเทศและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องมุสลิมที่จะเดินทางไปร่วมประกอบพิธีทำฮัจย์ดังกล่าว
ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ตนขอถือโอกาสแสดงความเคารพต่อความศรัทธาอันแรงกล้าของพี่น้องมุสลิมในโอกาสไปร่วมประกอบพิธีฮัจย์
ปฏิบัติศาสนกิจเพื่อแสวงบุญอันยิ่งใหญ่ที่นครเมกกะและขออภัยต่อเหตุการณ์ของตนที่ถูกเชื่อมโยงไปเป็นเงื่อนไขอันอาจส่งผลกระทบต่อการขอวีซ่าเพื่อเดินทางในครั้งนี้ ดังนั้น ตนขอแสดงเจตน์จำนงที่แน่วแน่ด้วยการสละสิทธิ์ไม่รับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.เพื่อสนับสนุนพี่น้องมุสลิมให้ได้มีโอกาสไปแสวงบุญ ซึ่งก็เป็นสิริมงคลกับตนด้วยและเป็นการป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่ปรารถนาดีนำพี่น้องมุสลิมผู้บริสุทธิ์ไปขยายผลไปสู่ประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา และเกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯนั้น เรื่องนี้ในส่วนกระบวนการสอบสวนของดีเอสไอนั้นมีพิรุธ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย และพ.ต.ท.เบญจพล จันทวรรณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ได้ร่วมกันไปจับกุมตัวพ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก จำเลยที่หลบหนีหมายจับของศาลมีนบุรีและเป็นพยานที่ทางดีเอสไอนำกลับมาเป็นพยานในการดำเนินคดีตนเองอีกครั้งและเป็นผู้ที่กลับคำให้การในชั้นศาล
สมคิดแถลงแล้วไม่รับตำแหน่งผช.ผบ.ตร.-ยันไม่ได้ถูกกดดัน
โดยเดิมเคยให้การว่าไม่เห็นเหตุการณ์แต่เปลี่ยนใหม่เป็นเห็นเหตุการณ์
และพ.ต.ท.สุวิชชัย ยังเป็นผู้นำวัตถุพยานเป็นแหวนของกลาง อ้างว่าเป็นของนักธุรกิจซาอุฯผู้ตาย ซึ่งอยู่ที่พ.ต.ท.สุวิชชัย ได้เก็บไว้มามอบให้พนักงานสอบสวน แต่หลังจากนั้นดีเอสไอ ได้ปล่อยตัวพ.ต.ท.สุวิชชัย จำเลยคดีฆ่าคนตายให้หลบหนีไป ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาไว้ในคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตไว้แล้วส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ตนจึงขอฝากปัญหาไปยังอุปทูตซาอุดิอาระเบียด้วยว่า คดีที่ตนถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯที่ดีเอสไอฟ้องร้องเอาผิดนั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลอาญา ตนขอความกรุณาได้อดทนรอขั้นตอนการพิจารณาของศาลซึ่งจะมีการเรียกสอบพยานปากแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้วและขอวิงวอนให้ท่านอุปทูตได้กรุณาสอบถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ถึงผลการสอบสวนกรณีที่ตนได้ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องดังกล่าวที่พนักงานดีเอสไอปล่อยตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย ที่ดีเอสไอนำกลับมาเป็นพยานฟ้องดำเนินคดีตน และถามถึงผู้รับผิดชอบ
พล.ต.ท.สมคิด กล่าวอีกว่า ส่วนการจะรับตำแหน่งผบช.ภ.5 หรือตำแหน่งใดต่อไปอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา ยืนยันว่าการตัดสินใจดังกล่าวไม่ได้รับความบีบคั้นหรือได้รับความกดดันในภาวะวิกฤติจากใคร ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการตัดสินใจของตนได้ แต่การปรึกษาหารือนั้นมีผู้บังคับบัญชาเป็นที่ปรึกษา
"วันนี้การรับราชการตำรวจและหวังความก้าวหน้ามันเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เรารอคอย แต่หากจะมีสิ่งใดที่มาเป็นผลกระทบ การเป็นตำรวจจะหวังแต่ความก้าวหน้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ความเป็นพี่น้องในหมู่ข้าราชการเราต้องรักษาไว้บางครั้งสิ่งที่ถูกต้องอาจสร้างความพอใจไม่พอใจหรือไปมีผลกระทบ บางครั้งเราอาจจะเป็นผู้เสียสละให้น้องขึ้นไปก่อนก็ได้ ผมเป็นตำรวจไม่ว่าอยู่ตำแหน่งไหนก็ถือว่าสมกับเงินเดือนที่ประชาชนเสียภาษี เพราะฉะนั้นเป็นตำรวจแล้วไม่มีคำว่าเสียใจครับ" พล.ต.ท.สมคิดกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามมีข่าวว่าทางซาอุฯบอกว่าการประกาศไม่รับตำแหน่งเพราะอาจไม่พอต้องลาออกนั้น พล.ต.ท.สมคิดตอบว่าอันนี้เป็นข่าวเท่านั้นขออนุญาตไม่ตอบ
เมื่อถามว่าก่อนตัดสินใจเคยคิดว่าไม่ได้รับเป็นธรรมจากรอบข้างหรือไม่ พล.ต.ท.สมคิด ตอบว่า หากเราทำงานให้กับสังคมแล้วเราต้องมองภาพรวมเป็นหลัก ตนมองว่าความเป็นธรรมที่เราจะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนข้อยุตินั้นบางครั้งเราก็บังคับใช้กฎหมายบางครั้งเราต้องมีมาตรการในการรักษาความสงบ แต่หากเรามองปัจจัยแวดล้อมที่มีการดึงเอาพ่อแม่พี่น้องมุสลิมมาเป็นเหยื่อ ผมไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับซาอุดิอาระเบียต้องมาถูกดึงเป็นเงื่อนไขเพราะปัญหาของตนอีก
"ส่วนเรื่องที่จะไปอยู่ตำแหน่งไหนผมตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ผมตอบได้แค่ 2 ปีที่เหลือ ตั้งใจจะทำงานรับใช้ราชการสร้างประโยชน์ให้เกิดสูงสุด"พล.ต.ท.สมคิด กล่าว