ปลัดกลาโหม กังวล ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน วอนหน่วยงานความมั่นคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จี้ผู้บังคับบัญชาดูแลตรวจตราภายในหน่วย
22 ก.ย. พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่ทุกจังหวัดที่ยังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่ามีจังหวัดใดที่สามารถยกเลิกได้ และจังหวัดไหนที่ยังมีความจำเป็นต้องประกาศใช้ โดยให้เริ่มดำเนินการหาข้อมูลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 4 ต.ค. จากนั้นจะตัดสินใจในวันที่ 5 ต.ค. ว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ต้องดูด้านฝ่ายข่าวในพื้นที่ว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และเจ้าของพื้นที่จะต้องเป็นผู้เสนอแนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ในบางส่วน
เมื่อถามว่า หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วนำพ.ร.บ.ความมั่นคงมาใช้ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องดูกันอีกที หากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วจะหันมาใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ หรือไม่ใช้เลย อยากให้ทุกคนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะสามารถดูแลให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปได้ พร้อมกำชับผู้ใต้บังคับบัญชา
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับอาวุธของกองทัพที่หายไปหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า อาวุธที่หายไปไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ลักลอบเข้าไปขโมยเพื่อไปขายมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องของผบ.ทบ. ที่ต้องพยายามติดตามเรื่องนี้ว่าที่มาที่ไปอย่างไร ขณะนี้ก็ได้คนที่เข้าไปดำเนินการแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เป็นคนในกองทัพหรือทหารแตงโม พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงไม่ใช่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด ถ้าเราไม่ระมัดระวังดูแลให้ดี ก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาของหน่วยนั้นๆ ที่ต้องตรวจตราดูแล ถ้าไม่ติดตามก็จะเป็นเช่นนี้ คงต้องโทษหน่วยงานที่ไม่ดูแลให้ดี
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่อาวุธเล็ดรอดออกไป จะนำมาก่อวินาศกรรม พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เป็นความห่วงใยของทุกคน เมื่อมีอาวุธร้ายแรงหลุดหายไปจากคลังอาวุธ คงต้องติดตามดูว่าไปอยู่ที่ไหน อย่างไร และต้องระมัดระวังในพื้นที่ที่เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาจะเอามาทำอะไรหรือไม่
เมื่อถามว่า มีการโยนระเบิดในพื้นที่กทม.หลายครั้ง พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เหตุระเบิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นความพยายามสร้างความปั่นป่วนข่มขู่ผู้อาศัยมากกว่า