ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ
สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ตามที่กมธ.ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนความไม่โปร่งใสการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของสำนักงานอาชีวศึกษา ซึ่งมีตัวเลขผลประโยชน์ถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูลจัดซื้อจัดจ้างรอบที่ 3 และกรรมาธิการได้พบความผิดปกติตั้งแต่ขั้นประกาศเชิญชวนซื้อซองประมูลผ่านเว็บไซต์ ที่เดิมกำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 10 –15 กันยายน 2553 แต่เว็บไซต์ของสำนักงานอาชีวศึกษาได้ประกาศซื้อซองประมูลในวันที่ 11 กันยายน เวลา 21.13 น. ต่อมาเช้าวันที่ 12-13 กันยายน ประกาศดังกล่าวได้หายไปจากหน้าเว็บไซต์ เมื่อตนโทรศัพท์สอบถามไปที่สำนักงานอาชีวศึกษา จากนั้นปรากฏการประกาศซื้อซองใหม่ในวันที่ 13 กันยายน วลา 18.54 น.พร้อมกับเปลี่ยนข้อมูลเชิญชวนร่วมซื้อซองประมูลเป็นวันที่ 13-15 กันยายน ถือเป็นความผิดปกติที่ตนกล้ายืนยันว่ามีการล็อคสเปคจัดซื้อจัดจ้างจริง
นายวิลาศ กล่าวว่า นอกจากนี้ การประกวดราคาในแต่ละรายการ โดยปกติจะต้องแยกเป็นชุดเดียวและวางเงินมัดจำประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2.5 ล้านบาท แต่สำนักงานอาชีวศึกษากลับไม่ได้แยกรายการ แต่ได้รวมกันถึง 7 ชุด ทำให้ผู้ยื่นซองต้องจ่ายมัดจำประมาณ 50 ล้านบาท เท่ากับเป็นการกีดกันรายย่อย นอกจากนี้กมธ.ยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากข้าราชการที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะคัดค้านสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น ข้าราชการบางรายจบวิศวกรเครื่องยนต์และเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ถูกโยกไปเป็นผอ.โรงเรียนสารพัดช่าง จ.น่าน ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนตัดผม เรื่องเหล่านี้ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ต้องชี้แจง