“สุเทพ” สั่งฝ่ายมั่นคงประเมินสถานการณ์ 7 จว.คง พ.ร.ก. ถึง 4 ต.ค. ก่อนชงเข้า ครม.ชี้ขาดต่อหรือเลิก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวหลังเดินทางเข้าพบหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา เมื่อช่วงเช้า ว่า ในระหว่างที่นายกฯ เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 65 และการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ย.นี้ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น นายกฯ ไม่ได้สั่งการ หรือมีความเป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ศอฉ. เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้กำชับให้ทุกหน่วยงานประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะในจังหวัดที่ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ เนื่องจากในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จะเป็นวันที่ครบกำหนดการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามที่ประกาศไว้ในกฎหมาย จึงได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดประเมินสถานการณ์ และรายงานให้ทราบเป็นรายจังหวัด รายภูมิภาค จนถึงวันที่ 4 ต.ค.นี้ เพื่อจะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องรายงานต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ในการประเมินว่าจะต่อหรือเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่ทาง พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส. ระบุว่า
ตรวจพบอาวุธตกค้างจำนวนมากใต้ฐานพระในวัดโบสถ์วัดปทุมวนาราม ตกลงเป็นอาวุธเก่า หรือของใหม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงเป็นอาวุธเก่า แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้เมื่อไหร่ และจากการสอบถามสันติบาลในที่ประชุม ศอฉ. เขาก็บอกว่าไม่ทราบ สำหรับของที่พบ อาทิ ปืนเอ็ม 16 กระสุนปืนเอ็ม 16 ลูกระเบิดเอ็ม 79 ระเมิดมือ กระสุนปืนเอ็ม 60 ซึ่งมีจำนวนมากใส่อยู่ในเป้ 3 ใบใหญ่ ๆ วางไว้ใต้ฐานพระดังกล่าว
เมื่อถามต่อว่า อาวุธที่ตรวจสอบได้มีการรายงานว่า เชื่อมโยงกับอาวุธของทางราชการที่หายไปจากคลังแสงค่ายทหาร จ.ลพบุรี หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คนละเรื่องกัน ไม่ใช่ชุดที่หายไป
เมื่อถามย้ำว่า ใครจะเป็นคนแจ้งเบาะแสดังกล่าว นายสุเทพ กล่าวว่า มีคนแจ้งมาที่ตำรวจสันติบาล
เมื่อถามต่อว่า อาวุธที่จับกุมได้ในแต่ละครั้ง มีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบทุกชิ้น ทุกรายการ.