มาร์ค เร่ง คมช.- รัฐบาลเชือดทุจริต พิสูจน์ไม่เอี่ยวผลประโยชน์

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จี้ คมช.- รัฐบาล ฟันทุจริตอย่างจริงจัง เพื่อพิสูจน์ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พร้อมเร่งฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา ขณะเดียวกัน เตือนกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่าใช้เวลานานเกินความจำเป็น หวั่นสูญเปล่า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขียนบทความวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในเว็บไซต์ www.abhisit.org ว่า ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐบาลกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบจากเหตุการณ์และการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะแสดงออกถึงความมุ่งมั่น จริงใจ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบรรยากาศความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเสื่อมความนิยมในรัฐบาลได้กลายเป็นความเสี่ยงของประเทศอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการเริ่มต้นฟื้นฟูความเชื่อมั่นดังกล่าวจะสำเร็จได้ก็โดยการประกาศกระบวนการที่ชัดเจนในการคืนอำนาจให้ประชาชน และการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับประชาธิปไตยเท่านั้น ทั้งรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ต้องสื่อสารและดำเนินการ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การเข้ามาบริหารประเทศในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย โดยควรเริ่มต้นจากการชี้แจงอย่างจริงจังต่อสาธารณชนถึงเหตุผลที่เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ

สมาชิกทุกคนของคณะผู้นำชุดใหม่นี้จะต้องแสดงให้เห็นว่าได้เข้ามาด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งเกิดจากระบอบเก่าให้ถูกต้องเป็นลำดับแรก ความล้มเหลวในการสื่อสารและการดำเนินการของรัฐบาล และ คมช.ในเรื่องนี้ คือ สิ่งที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความรู้สึกหงุดหงิดและอึดอัดมากที่สุด การให้ความสำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจะช่วยให้คณะผู้นำชุดใหม่นี้กลับมาเป็นฝ่ายรุกมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายรับจากข่าวลือเรื่องต่างๆ ที่มีอยู่ทุกวัน อาทิ เรื่องการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเรื่องเหตุผลที่ยังไม่อาจจะยกเลิกกฎอัยการศึกที่จะนำไปสู่การตีความ ว่า คณะผู้นำชุดใหม่เกรงกลัวต่อการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยในเรื่องที่สำคัญ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นความผิดแล้ว ผู้กระทำผิดไม่ว่า จะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือนักธุรกิจ จะต้องได้รับการลงโทษอย่างจริงจัง จะต้องไม่ประนีประนอมยอมความ โดยใช้ข้ออ้างเพื่อการปรองดองสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติ ถ้าไม่สามารถสร้างกฎหมายให้มีผลบังคับใช้โดยไม่มีใครที่อยู่เหนือกฎหมายได้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะปราศจากความหมาย สิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในกระบวนการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา คือ ความจำเป็นที่คณะผู้นำชุดใหม่ต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้ดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

การดำเนินการใดๆ ก็ตามที่แสดงให้เห็นว่าคณะผู้นำชุดใหม่ในปัจจุบันไม่ได้แตกต่างจากผู้ที่พวกเขากล่าวหาจะเป็นปัจจัยที่สร้างความสั่นคลอนให้ผู้นำในปัจจุบันได้ ซึ่งการแต่งตั้งคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจ แม้จะชี้แจงเหตุผลถึงการแต่งตั้งนายทหารเข้าไปเป็นคณะกรรมการว่าเพื่อจะเข้าไปจัดการและตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเพื่อความมั่นคงก็ตาม แต่ไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้ การเรียกความเชื่อมั่นที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ การที่ผู้ได้รับการแต่งตั้งไปเป็นคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจจะต้องรีบชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะใช้เวลาในการดำเนินภารกิจนานเพียงไรและแสดงความจำนงที่จะออกจากตำแหน่งทันทีที่สำเร็จภารกิจ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า งานที่สำคัญที่สุด คือ การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขณะนี้กระบวนการที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนี้ยังดูจะใช้เวลายาวนานเกินความจำเป็นมาก เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสามารถควบคุมองค์ประกอบสภาร่างรัฐธรรมนูญได้ทุกขั้นตอน ระยะเวลาที่ถูกใช้ไปกับกระบวนการสรรหาดูเหมือนว่าจะสูญเปล่า ขณะนี้ควรที่จะเร่งดำเนินการในทุกขั้นตอนของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างน้อยที่สุดต้องรับรองสิทธิ และเสรีภาพตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540 และจะต้องกำหนดเครื่องมือกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลตามเจตนารมณ์ที่ได้ริเริ่มกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540 และเพื่อมิให้เครื่องมือกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลไร้ประสิทธิภาพดังเช่นอดีต รวมทั้งจะต้องมีความเป็นประชาธิปไตยไม่น้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540 ด้วย