ส.ส.เพื่อไทยขานรับชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ชู "มิ่งขวัญ"นายกฯสมัยหน้า วาง"เฉลิม-อภิวันท์"เดินสายปราศรัยหาเสียง
นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปรับโครงสร้างพรรคใหม่เพื่อรองรับการเลือกตั้ง
ภายหลังจากพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ว่า เเม้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม เเละได้นายสุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานี เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ เท่าที่ทราบส.ส.ส่วนใหญ่ก็ยอมรับ แต่ก็มีบางส่วนไม่คาดคิดว่าจะเป็นนายสุพล โดยเฉพาะนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งทราบมาว่านายวิทยา มีความรู้สึกว่าในเมื่อนำส.ส.เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว ก็ควรที่มอบตำแหน่งเลขาธิการพรรคให้กับนายวิทยา เนื่องการทำงานเชื่อมโยงกันอยู่แล้วกับตำแหน่งประธานวิปฝ่ายค้าน เเละน่าจะทำงานดีกว่าในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตามนายวิทยา และส.ส.คงไม่เคลื่อนไหวทำให้เกิดรอยร้าว เพราะถือว่าเป็นมติพรรคไปแล้ว แต่ก็เข้าใจได้ที่ให้ตำแหน่งกับนายสุพล เนื่องจากเป็นโควตาภาคอีสานซึ่งมีส.ส.เยอะที่สุด ก็ถือว่าดีที่พรรคให้ความสำคัญกับภาคอีสาน
นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยใหม่ครั้งนี้ยังคงมีปัญหาเกิดขึ้น
ในเรื่องการจัดองค์กรที่มีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคให้มีส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ แต่ก็ยังมีการทับซ้อนกันอยู่ขององค์กรที่มีตามกฎหมายและองค์กรที่ไม่ใช่ตามกฎหมาย เช่น คณะกรรมการประสานภารกิจพรรคที่มี 30 คน ก็มีบางคนที่อยู่ในกรรมการบริหารพรรคเช่นกัน แล้วอย่างนี้จะทำงานอย่างไร อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการประสานภารกิจพรรคก็ยังไม่ชัดเจน เพราะเข้าใจว่าก่อนหน้านี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ในการวางแผนตัดสินใจทำงานเชื่อมโยงกับคณะกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้มีส.ส. แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรค มีส.ส.เข้าไปทำงานแล้ว กลับมีบางคนที่อยู่ทำงานทั้ง 2 คณะ ซึ่งที่จริงแล้วควรจะแยกคนทำงานทั้ง 2 คณะออกจากกันเพื่อให้การทำงานไม่ทับซ้อน
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนในหลักการว่าสรุปแล้วหากมีเรื่องให้พิจารณานั้น จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดใดก่อน
แต่โดยหลักการตนคิดว่าควรจะผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคก่อนแล้วจึงเข้าพิจารณาของคณะกรรมการประสานภารกิจ จากนั้นจึงสั่งการไปถึงผู้ปฏิบัติ นอกจากนี้ในพรรคเองยังต้องจัดลำดับความสัมพันธ์ เช่น คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ คณะทำงานด้านกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีความเชื่อมโยงประสานกันในการทำงาน รวมทั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบาย คณะกรรมการสร้างเสริมประชาธิปไตย คณะกรรมการพิจารณาตัวผู้สมัครส.ส. ที่ได้มีการตั้งกันแล้วนั้น ก็ต้องมีการจัดสรรให้ดีไม่ให้มีคนทับซ้อนกัน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเมื่อปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารแล้ว ที่สำคัญคือต้องปรับโครงสร้างองค์กรภายในให้เป็นรูปแบบ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่สุด
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ ก็คงเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง
ซึ่งขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ ให้การสนับสนุน นายมิ่งขวัญ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อถึงช่วงเวลาปราศรัยหาเสียงจริง จะแบ่งฝ่ายกันทำงาน โดยฝ่ายบู๊ นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี ทำหน้าที่ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ ย่อยในต่างจังหวัด ส่วนนายมิ่งขวัญ ที่ไม่ค่อยชำนาญการปราศรัย เอาไว้คอยดีเบต ออกทีวี พูดเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ เป็นหลัก โดยแต่ละฝ่ายบุ๋น บู๊ แบ่งกันทำงาน โดยมีจุดหมายเดียวกันคือให้พรรคได้รับชัยชนะเลือกตั้ง