“มาร์ค”ย้ำรัฐบาลไม่มีนโยบายออก กม.นิรโทษกรรม ตอกกลับ“ชัย” แม้จะเป็นเสียงเดียวก็จะคัดค้าน
วันนี้ ( 16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนหลังจากที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันเดินหน้าให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ตนได้สอบถามคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล ก็ยืนยันว่ายังไม่มีการเสนอเรื่องเข้ามา และสิ่งที่ตนได้ชี้ไปก่อนหน้านี้คือมีหลายกลุ่มในสังคมที่ไม่ยอมรับ ซึ่งมันจะกลายเป็นปมความขัดแย้ง ดังนั้น ตนยังมองว่าคงไม่น่าจะเป็นประเด็นที่ต้องหยิบยกขึ้นมาในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำป้ายคัตเอ๊าท์และให้ ส.ส.รณรงค์ในพื้นที่ให้ประชาชนทราบถึงข้อดีของการนิรโทษกรรม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละพรรคการเมืองสามารถแสดงความคิดเห็น อาจจะไปให้ข้อมูลกับประชาชน แต่ขณะนี้มีตัวกฎหมายอยู่ ซึ่งหลายคนยังสับสนมากว่าออกไปแล้วผลของมันที่แท้จริงคืออะไร และหลายฝ่ายยังไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้น ตนคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องหยิบยกขึ้นมา และกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทั้ง 2 กลุ่มก็บอกเองว่าเขาไม่ต้องการเรื่องนี้
“เราอยู่ในช่วงเร่งรัดกฎหมายสำคัญที่เป็นกฎหมายนโยบาย โดยเฉพาะในสมัยประชุมนิติบัญญัติ ซึ่งผมคิดว่ากฎหมายใดที่มีความเห็นพ้องต้องกันและจำเป็นที่ต้องผลักดันให้เกิดประโยชน์ในด้านนโยบายต่างๆ น่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด เช่น กฎหมายเงินออมแห่งชาติ ซึ่งกฎหมายแบบนี้คือสิ่งที่เรากำลังจะมาสร้างหลักประกันให้กับคนส่วนใหญ่ ซึ่งทุกพรรคน่าจะสนับสนุนและเดินหน้าเรื่องพวกนี้มากกว่า”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ อ้างว่านายกรัฐมนตรี เป็นเพียงเสียงเดียวในสภาฯ จึงไม่มีสิทธิ์คัดค้าน ถ้าส.ส.ส่วนใหญ่เห็นด้วย นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า “ผมก็ใช้สิทธิ์ของผม” เมื่อถามอีกว่านายชัย ระบุชัดว่าเสียงของ ส.ส.ใหญ่กว่ามติวิป เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา และตนไม่ได้คิดอะไร เพราะตนยังมั่นใจว่าขณะนี้ ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าความปรองดองจะเกิดสำเร็จหรือไม่นั้น มีปัจจัยสำคัญอยู่ที่ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีอิทธิพลต่อคนจำนวนพอสมควร ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ มาช่วยให้เกิดการปรองดอง ก็ง่ายขึ้น แต่การปรองดองไม่ใช่เรื่องเป็นการไปตอบโจทย์สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่พ.ต.ท.ทักษิณสามารถช่วยตอบโจทย์ประชาชนได้โดยการเลิกการใช้ความรุนแรงและเลิกหยิบยกประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนมาสร้างเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคม