มาร์คปัดข่าวซาอุปิดสถานทูต

“อภิสิทธิ์” ปัดข่าวซาอุฯ ขู่ปิดสถานทูตในไทย ยัน สายสัมพันธ์ 2 ประเทศ ยังดีเท่าเดิม

ย้ำอย่าคาดการณ์ล่วงหน้าว่าซาอุฯ จะล็อบบี้”โอไอซี”ให้คว่ำบาตรไทย ชี้มติ ก.ตร.-พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ เอื้อตั้ง”สมคิด บุญถนอม”นั่งเก้าอี้ ผช.ผบ.ตร. ด้านรองนายกฯ สุเทพ ไม่วิตก  ซาอุฯ ตัดสัมพันธ์ไทย เชื่อลุกลามแค่คำพูด วอนประชาชนอย่าตกใจ

ความคืบหน้ากรณีความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่พรรค ประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล เลขาธิการคณะกรรมการกลาง  อิสลามแห่งประเทศไทย ระบุว่าทางการซาอุดีอาระเบียจะสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตในประเทศไทย จากกรณีการแต่งตั้ง พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ผู้ต้องหาคดีการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่า ยังไม่มีการรายงานเรื่องนี้เข้ามา ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ กำลังประสานกับทางการซาอุดีอาระเบียอยู่ เมื่อถามว่าเขาจะยื่นเงื่อนไขว่าถ้าไทยยังยืนยันการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด เขาจะกดดันให้ประเทศสมาชิกองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) คว่ำบาตรประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเราอย่าเพิ่งไปคาดการณ์อะไรล่วงหน้า เขาคงไม่มาแทรกแซงเรื่องภายในของเรา แต่ถ้าเขาห่วงใยอะไร เราก็ให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปชี้แจงทำความเข้าใจ
   
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในขณะนี้ยังเท่าเดิมอยู่ ตนคิดว่าเราต้องมองภาพใหญ่

เพราะช่วงเวลาปีเศษที่ตนเข้ามา บริหารประเทศนั้น เห็นว่ามีความคืบหน้าไป มาก แต่มาสะดุดที่เรื่องนี้เท่านั้น เมื่อถามว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการชี้แจงของฝ่ายไทยยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราพยายามชี้แจงเพิ่มเติม แต่บางครั้งต้องใช้เวลา เพราะมีเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก เมื่อถามต่อว่าจะถอนเรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ออกไป หรือยังยืนยันจะแต่งตั้งอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย และตามมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แต่ก็เป็นเรื่องที่เราต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับฝ่ายซาอุฯ เพราะถ้ารัฐบาลไม่ใส่ใจเรื่องนี้ คดีของ พล.ต.ท.สมคิด คงไม่ถูกเร่งรัดดำเนินการจนกระทั่งมีการส่งฟ้องศาลไปได้ นี่เป็นการแสดงออกว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับคดีนี้
   
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า แต่เมื่อมาถึงเงื่อนไขการแต่งตั้งโยกย้าย

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับระเบียบของ ก.ตร.ที่ระบุให้ผู้มีความอาวุโสเลื่อนตำแหน่งขึ้นไป บวกกับพ.ร.บ. ล้างมลทิน ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งเดิมคดีนี้หายไปแล้ว แต่เราก็ดำเนินการเร่งรัดคดี ส่วนการดำเนินการภายใน เช่น เรื่องทางวินัยก็เป็น ไปตามระเบียบ ต่อข้อถามว่าควรจะเร่งทบ ทวนอะไรบางอย่างหรือไม่ เพราะประชาชน จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศ   ซาอุฯ ในเดือน ต.ค.นี้ นายกฯ กล่าวว่า เราจะประเมินสถานการณ์ แต่ต้องดำเนินการทำความเข้าใจในจุดยืนที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินงานมา
   
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง

กล่าวถึงกระแสข่าวนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล เลขาธิการ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่าประเทศซาอุดีอาระเบียอาจตัดความสัมพันธ์กับไทย เนื่องจากไม่พอใจ เรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของนักธุรกิจชาวซาอุฯ ขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ว่า ตนไม่ค่อยได้ให้น้ำหนักกับข่าวนี้มากนัก เพราะไม่ทราบว่าคนให้ข่าวเป็นใคร และยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีกรณีนี้เกิดขึ้น สำหรับหนังสือชี้แจงกรณีนี้ ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแปลเพื่อจัดส่งไปยังประเทศซาอุฯ แล้ว คิดว่าทางซาอุฯ คงเข้าใจ แต่ทั้งนี้ต้อง มีการตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนไม่ตกใจกับข่าวนี้     
   
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวถึงความไม่พอใจว่าอาจถึงขั้นปิดสถานทูตซาอุฯ ในประเทศไทย รวมถึงขยายผลให้องค์การการประชุมอิสลาม หรือองค์กรมุสลิมโลก คว่ำบาตรไทยว่า

ตนยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่คิดว่าคงยังไม่ถึงขนาดนั้น เมื่อถามว่า   ท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องนี้ ดูยังเงียบ อาจทำให้เกิดการลุกลามไปถึงการไม่ออกวีซ่าให้กับชาวมุสลิมว่า กระทรวง การต่างประเทศพยายามจะชี้แจงอธิบายข้อเท็จจริง ซึ่งการลุกลามเป็นเฉพาะที่คำพูดของคน แต่สถานการณ์จริงไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น เมื่อถามต่อว่า หากจะสมมุติถึงผลดีผลเสีย ในเรื่องนี้ นายสุเทพ รีบตัดบทตอบว่า ไม่สมมุติ เมื่อถามอีกว่าจะสอบถามกลับไปที่นายพิเชษฐ์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการโดยตรงกับซาอุดีอาระเบียเลยดีกว่า.