"เพื่อแผ่นดิน"วุ่นไม่จบ"ไชยยศ"ฉุนตั้งแง่ขับพ้นพรรค เตรียมยื่นกกต.คัดค้านองค์ประชุมไม่ครบ เผยไม่โทษ ส.ส.ย้ายพรรค ระบุปัญหามีไว้ต้องแก้ ยืนยันพรรคความมีสมานฉันท์ปรองดอง
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.เวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2553 โดยมีแกนนำคนสำคัญร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ และ กลุ่ม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ทำให้มี ส.ส.เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 15 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 32 คน โดยมีวาระพิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรค เรื่องที่ทำการพรรค และองค์ประชุม รวมถึงมีการเลือกตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร, คณะกรรมการนโยบายของพรรค และคณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมือง
นายชาญชัย กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน กลายเป็นพรรคการเมืองที่มีนัยยะ ที่สังคมต้องตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมถึงมีการแบ่งฝ่าย แบ่งขั้ว ซึ่งตนยอมรับว่า เป็นเพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เอกสิทธิ ส.ส.เห็นต่างจากมติของพรรคการเมืองต้นสังกัด ทำให้พรรคไม่สามารถควบคุมกระบวนการลงคะแนนในรัฐสภาเป็นไปตามมติของพรรคได้ ทำให้ระบบการเมืองอ่อนแอ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ทางพรรคเพื่อแผ่นดินไม่มีมติที่จะขับไล่ ส.ส.ที่ไปทำงานการเมืองกับพรรคอื่น เพราะถือว่าเราอยู่กับแบบพี่น้อง ใช้ระบบยืดหยุ่น ผ่อนปรน เพื่อให้เกิดความสามัคคี ซึ่งไม่เหมือนกับทางพรรคเพื่อไทย
จากนั้นนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคและรักษาการเลขาธิการพรรคได้ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยได้ขอมติที่ประชุมเรื่องการแก้ไขข้อบังคับพรรคเรื่องย้ายที่ทำการพรรคมา เป็นอาคารเลขที่ 375 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. แทนที่ตั้งที่ทำการพรรคเดิมบนอาคารปิยะเพลส และการแก้ไขข้อบังคับพรรค ข้อ 54 เรื่ององค์ประชุม โดยได้ตัดข้อ 2 ส.ส.ต้องเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด และเปลี่ยนเป็นต้องมีสมาชิกร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 200 คนแทน และตัดข้อ 3 ให้สมาชิกที่เป็นรัฐมนตรีเข้าร่วม ถึงจะครบองค์ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ส่วนการเลือกตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด ได้ข้อสรุปดังนี้ คือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้ทวนมติแก้ไขข้อบังคับพรรค เรื่องย้ายที่ทำการและคัดเลือกคณะกรรมการ 3 ชุดให้ที่ประชุมฟังอีกครั้ง จากนั้นได้ปิดการประชุมเมื่อเวลา 16.30 น. ซึ่ง นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรค ได้แถลงว่า ผลการประชุมรวมถึงการแก้ไขข้อบังคับพรรค จะได้ส่งให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองโดยเร็ว
ด้าน นายไชยยศ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าร่วมถึงกรณีการแก้ไขข้อบังคับพรรคว่า ตนมารับรองเฉพาะการย้ายที่ทำการพรรคเท่านั้น ส่วนการแก้ไของค์ประชุมนั้นไม่รับทราบ และไม่ได้เห็นวาระการประชุม ซึ่งตอนที่เข้าร่วมประชุม ก็ไม่มีการแจ้งหรือประชุมวาระของการแก้ไของค์ประชุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการแก้ไขข้อบังคับนั้น ถือว่าไม่มีความสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องวางกับดักเรื่องแก้องค์ประชุม เพราะมีบางคนต้องการขับไล่ตนให้พ้นจากพรรค เพราะไม่พอใจ แต่ตนไม่อยากทะเลาะกับใคร แต่หากมีใครมาทำก่อนก็ต้องตอบโต้ ส่วนข้อบังคับพรรคหากมีการยื่นให้กกต.รับรองตนก็จะยื่นคัดค้าน เพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวาระ ถือว่าไม่ครบองค์
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว การย้ายสังกัดพรรค นายไชยยศ กล่าวว่า ตนถือว่าเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดินมากับนายสุวิทย์ คุณกิติ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินและแกนนำคนอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างตัดสิทธิทางการเมือง จึงถือได้ว่าตนเป็นเจ้าของพรรคตัวจริง เพราะเป็นคนก่อตั้ง อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่ามีความสนิทสนมกับ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยสมัยที่เริ่มทำงานการเมืองในรัฐสภา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นเจ้าของพรรค จะทำอย่างไรกับ ส.ส.ที่เตรียมตัวย้ายพรรค นายไชยยศ กล่าวว่า วันนี้อย่าไปโทษว่าใครผิด ตนเชื่อว่าปัญหามีไว้แก้ไข เมื่อ ส.ส.ออกไปจากพรรค ก็ต้องตามดูต้นเหตุอย่างรอบด้านว่า เกิดจากอะไรแล้วรับมาแก้ไข ส่วนวิธีการขับไล่นั้น ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุดทางพรรคก็ต้องมีความสมานฉันท์และปรองดองร่วมกัน