ส.ว.เสนอนิรโทษกรรมผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองต่อเมื่อรับโทษไปแล้วครึ่งหนึ่ง สร้างปรองดอง ชี้หากยังไม่สำนึกต้องรับโทษทวีคูณ
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา โดยมี นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน
โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายอนุศักดิ์ คงมาลัย ส.ว.สรรหา หารือต่อที่ประชุม ว่า อนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ได้เดินทางไปศึกษาแนวทางของโรงเรียนปลอดความรุนแรงที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พบว่า เด็กได้เรียนรู้การใช้ความรุนแรงจากผู้ใหญ่โดยตรง
หากผู้ใหญ่ไม่ใช้ความรุนแรง และดำเนินชีวิตแบบสันติวัฒนธรรม จะเกิดทัศนคติเชิงบวกในการมองโลก ทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นพลเมืองดีของชาติ แม้แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เอง ได้จัดหลักสูตรสำหรับเยาวชนระดับประถมต้น 4 ชั้นปี โดยทำกิจกรรม เพื่อให้เด็กเรียนรู้ความต้องการของผู้อื่น ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของวัฒนธรรมประชาธิปไตย โดย รมว.วัฒนธรรมคนก่อน ได้พยายามสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ดี แต่ทำไม รมว.วัฒนธรรมคนปัจจุบัน จึงไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้เท่าที่ควร
ขณะนี้มีความพยายามกลับมาพูดกันเรื่องการสร้างความปรองดอง เหตุใดรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ในการดำเนินนโยบายเชิงรุก
แต่กลับปล่อยให้กลุ่มบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อาจมีเจตนาไม่ดีต่อประเทศ ฉวยโอกาสไปชี้นำกับประชาชนจนทำให้เกิดความวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา รัฐบาลต้องหนักแน่น และยึดหลักปรองดอง ต้องเคารพกฎหมาย ให้อภัย นิรโทษกรรมได้ แต่ต้องไม่ให้กับคนที่ทำผิดจริยธรรม ทำผิดกฎหมายซ้ำซาก โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจะควรได้รับนิรโทษกรรมก็ต่อเมื่อได้รับโทษไปแล้วกึ่งหนึ่งของโทษที่ต้องรับ และหากมีส่วนกระทำผิด หรือเลือกไปอยู่กับผู้กระทำผิดตามกฎหมายแล้วกระทำผิดอีก ก็ควรได้รับโทษเดิมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่ารวมไปกับโทษที่ทำผิดใหม่ด้วย นายอนุศักดิ์ กล่าว