ผู้สื่อข่าวถามว่ามีใครที่พยายามจะล้มความตั้งใจของแผนปรองดองของรัฐบาล แล้วมากระทำการเช่นนี้หรือไม่
นายสุเทพ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ว่าใครที่จะตั้งใจทำอย่างนั้น แต่จากการประมวลทางด้านการข่าว กระบวนการที่จะสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองนั้น เขายังไม่เลิก ยังพยายามที่จะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่ามีการเตรียมความพร้อมอย่างไรหรือไม่ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่เขากำหนดจะเคลื่อนไหวในวันที่ 19 ก.ย.นี้แล้ว มีรายงานข่าวออกมาเตือนจะมีเหตุอะไรหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีข่าวว่าจะมีเหตุรุนแรง แต่ในการประชุมศอฉ.ได้สั่งการไปแล้วให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าการกระทำใด ๆ บ้างที่จะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ในขณะที่มีการประกาศพรก.ฉุกเฉินฯอยู่ เพื่อจะได้แจ้งเตือนคนที่จะดำเนินการให้ทราบก่อน เพราะเราไม่ต้องการให้มีการกระทำการที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้น ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาต่อไปอีก นอกจากนี้ได้สั่งการให้สตช.ไปจัดทำแผนงานในการที่จะป้องกันระงับเหตุ และพรุ่งนี้ก็จะนำมาเสนอให้ตนทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางสันติบาลได้เคยเตือนท่านถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการลอบสังหาร นายกฯและนายสุเทพ โดยการใช้อาวุธหนัก
นายสุเทพ กล่าวว่า เพิ่งทราบจากสื่อ "ผมคงต้องบอกกับพล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เหมือนกันว่าการที่ออกมาให้ข่าวกับสื่ออย่างนี้ อาจทำให้เกิดความตระหนกตกใจ ซึ่งความจริงข่าวนี้มีมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา แต่ผมก็มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติราชการ ก็ต้องทำหน้าที่ไปตามปกติ แต่ก็ไม่ได้ประมาทอะไร" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าข่าวที่ออกมาเป็นการท้าทายผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ เพราะผบ.ตร.คนใหม่ เพิ่งเข้ารับหน้าที่ได้เพียงแค่ 1-2 วันเท่านั้น แต่คดีอาชญากรรมมีอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามว่าจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่มีความเกี่ยวพันกับกรณีของนายวิคเตอร์ บูท หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน เมื่อถามต่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการที่ศอฉ.ประกาศจะยังคงพรก.ฉุกเฉิน ต่อไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ยืนยันว่าทางศอฉ.ที่ยังจำเป็นต้องคงพรก.ฉุกเฉินไว้ เพราะต้องการที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นว่าสมควรจะใช้กฎหมายปกติธรรมดาเข้ามาดูแลสถานการณ์ได้ เราก็จะเลิกพรก.ฉุกเฉิน ทันที