ศอฉ.ห่วงข่าวป้ายสี จนท.สั่งจับตาชุมนุม 19 ก.ย.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) เป็นประธานในการประชุมศอฉ.

โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการหารือประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จากนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.แถลงว่า ที่ประชุมมีการหารือใน 3 ประเด็น คือ 1. ความห่วงใยของ ศอฉ.ต่อข้อมูลข่าวสาร โดยบางคนบางกลุ่มที่ให้ข้อมูลบิดเบือนกับสาธารณะมากขึ้นเป็นลำดับ เช่น ใส่ร้ายป้ายสีเจ้าหน้าที่ว่าสั่งฆ่าประชาชน และต้องรับผิดชอบ ยืนยันว่าในจิตใจของคนเป็นทหาร ตำรวจ ไม่มีใครเคยคิดทำร้ายประชาชนหากไม่มีเหตุที่เป็นไปตามข้อกฎหมาย อย่างไร ก็ตาม ขอให้ทุกเรื่องพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า 2. เรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเมื่อไหร่จะเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอชี้แจงว่า สาเหตุที่มีการประกาศ พ.ร.ก.คือ มีการจาบจ้วงสถาบัน ต้องการรักษาความสงบ

ไม่อยากให้ประชาชนปะทะกัน และรักษากระบวนการทางด้านกฎหมายและความยุติธรรม รวมถึงป้องกันเหตุที่เป็นภัยต่อความมั่นคง แม้วันนี้ไม่มีการชุมนุม แต่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มทางการเมืองทั้งเหตุยิงเอ็ม 79 เหตุลอบวางระเบิดอยู่ตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ 3. การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่จะครบ 4 ปีรัฐประหาร ทางหน่วยข่าวได้ติดตามความเคลื่อนไหวว่า อยู่ในกรอบกฎกติกาหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้การเคลื่อนไหวสามารถทำได้ถ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่อยากให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ความมั่นใจของผู้ประกอบการ ส่วนในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ทาง ศอฉ.ยังได้ฝากให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ดูแล นอกจากนี้ การที่จะมีการวางดอกไม้ แดงหน้าเรือนจำนั้น อาจหมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วง ก้าวล่วงอำนาจศาลได้

โฆษก ศอฉ.กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ศอฉ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินจำนวนมากนั้น เป็นการระบุของโฆษกพรรคการเมืองหนึ่ง

โดยเราไม่ได้ประมาท แต่ ไม่ได้หมายความว่าทำตามคำกล่าวของโฆษกพรรค การเมืองนั้น แต่เมื่อสังคมไม่สบายใจในการฟังข้อมูลนี้ จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และประชาชนก็จะอุ่นใจ มีมากเกินดีกว่าขาด จะปฏิบัติภารกิจจนกว่ามีข้อมูลข่าวสารว่ามีความปลอดภัย นอกจากนี้ ในที่ประชุม ทาง ผู้กำกับ สน.พญาไท ได้รายงานว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาพบระเบิดใส่กระเป๋านักเรียนวางไว้ใต้บันไดสะพานลอย หน้าโรงเรียนสันติราษฎร์ฯ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นถังแก๊สใส่ดินระเบิด มีชนวนทุกอย่างครบพร้อมทำงาน อย่างไร ก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนจึงไม่เกิดเหตุอะไร