สุเทพ ขออภัยเติ้ง ห่างเหินพรรคร่วมรัฐบาล

สุเทพ กราบขออภัย"เติ้ง"อ้างงานยุ่งห่างเหินพรรคร่วมรัฐบาล เร่งขันนอต รมต.ปชป. อ้างสั่งช่วยเสริมงานมั่นคง ปัดจัดทัพรับเลือกตั้ง...

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล

ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานกรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา บ่นน้อยใจว่าไม่ค่อยโทรหาไม่ค่อยสนใจพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลเลย โดยนายสุเทพ ยอมรับว่า “ไม่ได้โทรจริง ๆตอนนี้เพราะว่าส่วนใหญ่เวลามีประเด็นที่ผมต้องการคำปรึกษาแนะนำ ผมก็โทรศัพท์ไปหาท่านหรือไปขออนุญาตเรียนพบท่าน ต้องกราบขออภัยท่านด้วยเพราะช่วงนี้มันยุ่ง ๆ อยู่หน่อย แต่ว่ากราบเรียนว่าผมเหมือนเดิมทุกอย่างครับ” 

ส่วนจะมีการนัดพบปะหารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลกันอีกรอบ

เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่หลังจากที่ห่างหายไปนานพอสมควร จน นายบรรหาร ออกมาบ่นทำนองน้อยใจ นายสุเทพ กล่าวว่า “เดี๋ยวผมก็จะหาทางพูดคุยปรึกษาหารือกัน” เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เก่า 8 ส.กับ 1 ส.พิเศษ หมายความรวมถึง ส.สุเทพ ด้วยหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าว ว่า “ผมมันส.ธรรมดา เข้าไปยุ่งกับเขาไม่ได้”

นายสุเทพ กล่าวถึงการที่ได้เรียกประชุมติวเข้มรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ บ่อยขึ้นในช่วงนี้

โดยมีการกำชับให้ลงพื้นที่ให้มากขึ้นและให้เร่งหาสมาชิกพรรคเพิ่ม จึงถูกมองว่าเป็นการจัดทัพเตรียมการเลือกตั้ง ว่า บังเอิญว่ารัฐมนตรีทั้งหลายต่างคนต่างก็ทำงานก็เลยไม่ได้ค่อยได้คุยกันในภาพรวม ๆ ของบ้านเมือง ตนก็ขอเชิญรัฐมนตรีมาปรึกษาหารือและเรียนให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นทราบว่าในประเด็นที่เกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง ตนได้ดำเนินการอะไรไปบ้างอย่างไร เขาจะได้ทราบ ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้ง ยังไม่ได้ทำไปเพื่อเป้าหมายนั้น 

“ที่ผมเชิญรัฐมนตรีของพรรคมาพูดคุยกันเป้าหมายคือขอให้ช่วยกันเสริมให้มาตรการที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำได้มีผลสัมฤทธิ์เร็วขึ้น เป็นต้นว่าเรื่องของการที่จะให้มีการประชุมสัมมนา การปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วนและประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมกันในการจะทำให้ขบวนการปรองดองสมานฉันท์ของนายกฯบรรลุผลสำเร็จ เช่น มีการประชุมสัมมนากันในส่วยราชการต่างๆ แล้วก็มีการประชุมสัมมนาระหว่างส่วนราชการกับประชาชนที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหรือการที่จะเข้าไปทำแผนพัฒนาจังหวัด โดยที่ให้ทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน