ปูดคนรัฐอุ้มพยานคดียุบปชป.หนี

วันนี้ ( 5 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไต่สวนพยานนัดที่ 4 ในวันที่ 6 ก.ย.ว่า จากข้อมูลของคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยที่ติดตามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ทราบว่าพยานบางปากถูกกดดันจากคนในรัฐบาลให้เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อไม่ต้องมาเบิกความในคดีนี้ โดยขณะนี้พยานปากสำคัญคนหนึ่งคือ นายสุชาติ เกิดเมฆ หรือ “เป๋โปสเตอร์” ที่จะต้องขึ้นเบิกความในวันที่ 6 ก.ย.อยู่ที่ฮ่องกง โดยถูกขอให้หลบไปจนกว่าคดีจะพิจารณาเสร็จสิ้น ทั้งใช้การข่มขู่ และให้ผลประโยชน์ตอบแทน การกระทำในลักษณะนี้ของคนในรัฐบาลถือเป็นการเล่นใต้ดิน และใช้อำนาจอิทธิพลมืดกดดันพยานทุกวิถีทาง เท่ากับใช้ฝีตีนสู้คดี ไม่ใช่ฝีมือเหมือนที่บางคนเคยพูดไว้ การกระทำที่น่ารังเกียจนี้ถือเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ดำเนินการไปตามปกติ

สำหรับการต่อสู้คดีของทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ในการสืบพยาน 3 นัดที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นวิธีการทำลายน้ำหนักความน่าเชื่อถือของพยาน ใช้เรื่องส่วนตัวมาสอบถามพยาน โดยไม่กล้าที่จะแตะต้องเนื้อหาหรือหลักฐานของคดี การทำนิติกรรมอำพราง หรือเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่จะชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของพรรคประชาธิปัตย์
 
       “ขอเรียกร้องไปยังไอ้โม่งที่อยู่ในรัฐบาลอย่าใช้วิธีสกปรก โดยให้พยานหลบหนีไม่มาศาล ควรปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปตามปกติ เพราะคดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ การสู้คดีก็ควรจะสู้อย่างตรงไปตรงมา ตามเนื้อหาหลักฐานและข้อเท็จจริง”

นายพร้อมพงศ์กล่าวและว่า นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่า นายธงชัย ดลศรีชัย พยานปากสำคัญอีกคนหนึ่งก็ถูกใช้วิธีการเดียวกัน พาตัวไปอยู่ที่ยุโรป จนไม่สามารถมาเบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญในนัดที่ 3 เมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าในวันที่ 13 ก.ย.ที่ศาลนัดนายธงชัยมาอีกครั้ง ก็น่าจะมาไม่ได้เช่นเดิม