สุเทพ-ปชป. รับไมตรี พท.ยุติขัดแย้ง ขอดูปฏิบัติจริง

"สุเทพ"รับไมตรี-แต่ขอดูพท.ปฏิบัติ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความยินดีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ทอดไมตรีเปิดทางเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่จะขอรอดูการปฏิบัติว่าจะจริงจังตามที่กล่าวไว้มากน้อยเพียงใด ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าวันที่ 3 กันยายน ที่เนียบรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อทอดไมตรีมาก็ดีแล้ว แต่จะขอดูการปฏิบัติว่าเป็นจริงเป็นจังอย่างนั้นหรือไม่ หรือจะเป็นว่านายปลอดประสพทอดไมตรีมา แต่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท.และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังยื่นเท้าไปทั่ว  

"พรรคเพื่อไทยควรทำตัวเป็นพรรคการเมืองจริงๆ ที่ต่อสู้บนวิถีทางรัฐสภา ไม่ใช่ว่าสู้ทั้งในสภา ข้างถนน และก่อการจลาจลไปพร้อมๆ กัน เพราะถ้าอย่างนั้นพูดอย่างไรคนก็ไม่เชื่อถือ ที่มีการทอดไมตรีมานั้นรู้สึกยินดี แต่ต้องดูว่าจะปฏิบัติอย่างนั้นจริงหรือไม่ หากสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำมันคนละอย่างมันก็คงจะทำอะไรไม่ได้ " นายสุเทพกล่าว

หากจริงค่อยพูดเรื่องเจ้าภาพเจรจา

ส่วนคำถาม รัฐบาลพร้อมจะเป็นเจ้าภาพในการเจรจาหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า "ผมคงไม่ทำอะไรที่เป็นการจัดฉากหรือสร้างภาพ หากเป็นเรื่องจริงแล้วถึงจะทำ" ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดพร้อมจะปรองดองอีกครั้ง ติดต่อกับทางรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีการติดต่ออะไรกัน และไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมายความตามที่พูดหรือไม่ คงต้องขอเวลารอดูก่อน และไม่ขอวิจารณ์ในเรื่องที่ พท.จะเชิญคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าหารือกับแกนนำ พท.  เนื่องจากเป็นเรื่องภายใน พท.

การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพครั้งนี้มีขึ้นภายหลัง พท.โดยนายปลอดประสพออกแถลงการณ์ 5 ข้อ

ประกอบด้วย 1.พท.เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องพูดจาหารือแลกเปลี่ยนความคิดและความเชื่อระหว่างกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันอย่างสันติวิธี 2.พท.เชื่อว่าความสงบ สามัคคี และความเป็นชาติจะกลับคืนมาได้ด้วยการที่ทุกฝ่ายให้อภัยซึ่งกันและกัน และตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เสมอภาค และมีความยุติธรรม โดยอาจจะพัฒนาจากคำพูดไปเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย   3.พท.ขอเชิญชวนให้ทุกหมู่เหล่าหลีกเลี่ยงและละเว้นจากการใช้ความรุนแรง 4.พท.ขอน้อมถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ 5.พท.หวังและเชื่อว่าจุดยืนและสัจจะวาจาครั้งนี้ จะช่วยให้รัฐบาลและผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อความสงบได้คลายวิตก และเริ่มกระบวนการสมานฉันท์ได้ทันที โดยไม่ต้องรอการศึกษาใดๆ ให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก