พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลกาประชุม ศูนย์อำนวยการแก้ไข
สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. วันที่ 3 กันยายนว่า ที่ประชุมได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยบูรณาการกำลัง ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานคร โดยออกเป็นแผนปฏิบัติการพิเศษ 3 มาตรการ และแบ่งพื้นที่ในการเฝ้าระวังออกเป็น 3 ระดับ จำนวน 454 จุด คือ 1.พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษเป็นอย่างยิ่ง อาทิ เขตพระราชฐาน บ้านบุคคลสำคัญ สถานีขนส่ง รวม 130 จุด
โดยมีการวางกำลังอย่างเข้มงวด ภายในรัศมี 400 เมตร ตลอด 24 ช.ม. รวมทั้งเพิ่มเติมหน่วยลาดตระเวนเดินเท้า หน่วยซุ่มระวัง 2.พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ อาทิ สถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญอื่น ๆและจุดที่เป็นเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ 198 จุด โดยจะมีการเพิ่มด่านตรวจบริเวณใกล้เคียง และใช้กำลังเสริมของเจ้าหน้าที่ ทำงานร่วมกับหน่วยรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และ 3. พื้นที่เฝ้าระวังอื่น ๆ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ธนาคารและสถานที่ ที่มีคนพลุกพล่าน รวม 136 จุด ซึ่งจะเน้นการเฝ้าระวัง โดยการอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในเบื้องต้น
นอกจากนั้น ศอฉ. ได้จัดเตรียมชุดปฏิบัติการพิเศษ 10 ชุด เพื่อสามารถเข้าคลี่คลายสถานการณ์ได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันที่ประชุม ยังสั่งการให้ตรวจสอบ และปรับปรุงกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานคร และยังได้รับความร่วมมือในการใช้ภาพกล้องวงจรปิด (CCTV) จากภาคเอกชนในการเข้าร่วปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวด้วยว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ ศอฉ. ได้เรียกหน่วยงานในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร และเทศกิจ รวมทั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อรับภารกิจ