แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย
โดยมีการตั้งคณะกรรมการประสานกิจการพรรคเพื่อไทย ที่มีกรรมการประมาณ 30 คนนั้น ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้จัดทำโครงสร้างหลักเสร็จแล้ว โดยจะมี 4 องค์ประกอบสำคัญคือ 1.กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 2.กรรมการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ 3.ที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และแกนนำพรรคเพื่อไทยและ 4.ฝ่ายปฏิบัติ โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานกิจการพรรคเพื่อไทย นางสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะทำหน้าในฝ่ายเลขาธิการคณะกรรมการฯ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในส่วนของคณะกรรมการนั้นจะเป็นในส่วนของกรรมการ ส.ส.ของแต่ละภาค แต่จุดสำคัญจะอยู่ที่ที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งปรากฎชื่อของบุคคลในตระกูลชินวัตร และอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทยร่วมเป็นที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน นำโดย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสาน น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ นายวราเทพ รัตนากร แกนนำกลุ่มกำแพงเพชร ภาคกลาง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หัวหน้ากลุ่มพิจิตร ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำภาคเหนือ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำกลุ่มนครปฐม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังเตรียมที่จะประสานงานเชิญ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาร่วมสังเกตการณ์ประชุมครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นวาระพิเศษที่จะมีขึ้นภายในสัปดาห์หน้าด้วย
นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้จะมีการประชุมครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 6 กันยายน
โดยจะมีหน้าที่ในการประสานงานและคิดกิจกรรมในการขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย ซึ่งอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนเข้ามาด้วยในฐานะที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีประสบการณ์สามารถให้คำแนะนำได้ ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคจะเชิญคุณหญิงพจมาน เข้าร่วมประชุมด้วยนั้นตนก็คิดว่าไม่เสียหาย เพราะคุณหญิงพจมานเองก็ไม่ได้โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทั้งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคุณหญิงพจมาน เคยช่วยเหลือพรรคไทยรักไทย ในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ ซึ่งประสบการณ์และความสามารถของคุณหญิงพจมานนั้นสามารถให้คำแนะนำกับพรรคได้เป็นอย่างดี