“ฮุนเซน”ยาหอม”มาร์ค”ความรู้ดีชี้ร่วมมือไทย

"ฮุนเซน" ยาหอมนายกฯอภิสิทธิ์ เป็นคนมีความสามารถ พร้อมร่วมมือกับไทย เพื่อประโยชน์ชาติ

วันนี้ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น แจ้งว่า นายเขียว กันหะริด รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสาร และโฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวว่า การประชุมนี้มีบทบาทสำคัญเพื่อสร้างความร่วมมือทวิภาคีในแวดวงสื่อมวลชน และสร้างความสัมพันธ์ และเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ ระหว่างสื่อของทั้งสองประเทศ ซึ่งสื่อของแต่ละฝ่าย ต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศการไม่เลือกปฏิบัติต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย และต้องมีความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน

ทั้งนี้ เครื่องมือ 3 ประเภท สำหรับการเสริมสร้างความร่วมมือร่วมกัน หนึ่งคือ ต้องมีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างเร่งด่วน

เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด ในการรายงานข่าวของสื่อ , สอง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่กัมพูชาอย่างเป็นทางการ ที่จะทำงานร่วมกับสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับสื่อ และสาม ทั้งสองฝ่าย ควรจะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน รวมถึงเทคนิคและบทความ เพื่อความร่วมมือทางด้านข้อมูล

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลสื่อมวลชนทุกแขนงในประเทศไทยและดูแลกรมประชาสัมพันธ์ จึงได้ตำหน่งรัฐมนตรีข้อมูล จากกัมพูชา กล่าวกับสื่อ หลังการพูดคุย ว่า ต้องมีการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของระบบสื่อ และการเจรจาของเราก็เป็นผล และทั้งสองก็มีวัฒนธรรมและศาสนา ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ระหว่างกัน

นายองอาจ พร้อมด้วย นางลดาวัลย์ บัวเอี่ยม รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

พร้อมทั้งมีการเจรจาหารือกันถึงกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน อันได้แก่ การแลกเปลี่ยนของผู้สื่อข่าวไทยและผู้สื่อข่าวกัมพูชา โดยจะสามารถติดต่อกันได้โดยตรงหากมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สนับสนุนแนวคิดดังกล่าว และย้ำว่า แม้นานาประเทศอาจมองเห็นว่า ไทยและกัมพูชา มีปัญหาความไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง แต่บรรยากาศการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นหลายพันล้านบาท ในปีที่ผ่านมาประชาชนของทั้งสองประเทศ จึงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่อาจทำลายความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้ความสนใจ ที่จะขยายความร่วมมือด้านวัฒนธรรมการท่องเที่ยว และการจัดมหกรรมดนตรี โดยเห็นว่า กัมพูชา สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์จากประเทศไทยได้ทุกสถานี ซึ่งหากประเทศอาเซียนอื่น ๆ สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์จากประเทศเพื่อนบ้านได้ ก็จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดี

นอกจากนี้ สมเด็จฮุนเซน ยังกล่าวแสดงความประทับใจต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย และเห็นว่าเป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถ ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มามากมาย มีความพร้อมและความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า และกัมพูชา ก็พร้อมที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อประโยชน์ของชาติ และประโยชน์ภาพรวมของอาเซียน