ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง นายสุชน วัฒนพงษ์วานิช ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กรณีพัวพันรับสินบนสั่งซื้อใบยาสูบจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่าง ปี ค.ศ.2000 - 2004
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2553 เกี่ยวกับกรณีที่นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่างวันที่ 10 - 19 สิงหาคม 2553 เพื่อติดตามผลการพิจารณาตัดสินคดีการให้สินบนผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และติดต่อประสานงานกับอัยการของ Washington DC. เพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตในการซื้อขายใบยาสูบของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง อาทิ พฤติการณ์ของการให้สินบน รายชื่อและตำแหน่งของผู้เกี่ยวข้อง นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้สอบสวนพฤติการณ์การทุจริตของบริษัทผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา แล้วพบว่า มีข้อมูลการให้สินบนเป็นเงินจำนวนมากกับเจ้าหน้าที่โรงงานยาสูบของประเทศไทยในการสั่งซื้อใบยาสูบจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่าง ปี ค.ศ.2000 - 2004
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในเบื้องต้นกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายสุชน วัฒนพงษ์วานิช ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ในช่วงเวลานั้น มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ จึงมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง นายสุชน วัฒนพงษ์วานิช กับพวก โดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ และนายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ได้จับกุมและดำเนินคดีข้อหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจแก่บริษัท ยูนิเวอร์แซล คอร์ป เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย และบริษัท อลิอันซ์ วัน อินเตอร์เนชั่นแนล เมืองมอร์ริสวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ยูนิเวอร์แซล คอร์ปฯ ถูกกล่าวหาว่าในช่วง พ.ศ. 2543-2547 ได้ร่วมกับบริษัท ไดมอน อิงก์ และ สแตนดาร์ด คอมเมอร์เชียล ติดสินบนเจ้าหน้าที่โรงงานยาสูบของไทยมูลค่าสูงถึง 8 แสนดอลลาร์ หรือราว 25.7 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนสัญญาซื้อขายยาสูบมูลค่าราว 11.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 369 ล้านบาท
ในช่วงเวลาเดียวกัน อลิอันซ์ วันฯ ก็ได้ร่วมกับ 3 บริษัทดังกล่าวติดสินบนพนักงานโรงงานยาสูบของไทยด้วยเงินมูลค่ากว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ หรือ 38 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนสัญญาซื้อขายมูลค่า 18.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 587 ล้านบาท รวมรับสินบน 64 ล้านบาท ซึ่งภายหลังบริษัท ไดมอน อิงก์ และสแตนดาร์ด คอมเมอร์เชียล ก็ได้รวมกิจการเข้ากับอลิอันซ์ วันฯ
ก.ล.ต.สหรัฐและกระทรวงยุติธรรมยังระบุถึงความผิดของยูนิเวอร์แซล คอร์ปฯ ถึงการให้สินบนในไทย ยังมีความผิดในข้อหาเดียวกันนี้กับเจ้าหน้าที่ของประเทศมาลาวี และโมซัมบิก ส่วนอลิอันซ์ วันฯ ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันกับเจ้าหน้าที่จีน กรีซ อินโดนีเซีย และคีร์กีซสถาน
ยูนิเวอร์แซล คอร์ป ได้ยินยอมจ่ายค่าปรับในเรื่องดังกล่าว โดยมีมูลค่า 4.4 ล้านดอลลาร์ หรือ 141 ล้านบาท และจ่ายเงินคืนจากผลกำไรที่ได้อีก 4.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 144 ล้านบาท และยังได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยจะไม่ถูกดำเนินคดีถ้าปฏิบัติตามกฎและเงื่อนไขที่ได้มีการตกลงไว้กับกระทรวงยุติธรรมในช่วง 3 ปีนับจากนี้ ส่วนอลิอันซ์ วันฯ ก็จ่ายค่าปรับ 9.45 ล้านดอลลาร์ หรือ 303 ล้านบาท และจ่ายเงินคืนรายได้จากผลกำไรเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์ หรือ 321 ล้านบาท
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นช่วงรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ปี 2543 รมช.คลังที่ดูแลรับผิดชอบโรงงานยาสูบคือ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ในขณะที่ปี 2544-2547 แม้ รมว.คลังจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่รมช.คลังที่ดูแลโรงงานยาสูบอย่างต่อเนื่องคือ นายวราเทพ รัตนากร