จวกการข่าว ศอฉ.เริ่มอ่อน ย้ำอย่าหละหลวม
กมธ.มั่นคงสภาฯ ชี้ ยิงเอ็ม 79 ดิสเครดิตรัฐอ่อนแอ สับการข่าวอ่อนตั้งแต่มีศอฉ. ย้ำอย่าหละหลวม หวั่นมีการปลุกปั่น 2 สี เพื่อหวังสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล ช่วงชิงผลประโยชน์
1 ก.ย. ที่รัฐสภา นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณลานจอดรถของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที ว่า เป็นการกระทำที่วางแผนและทำเป็นกระบวนการ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลต้องไม่ประมาท และต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เพราะอาจมีมือที่ 3 ก่อกวน ซึ่งการกระทำดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลมีความอ่อนแอในการเฝ้าระวังและควบคุมความสถานการณ์ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า การระเบิดที่เกิดขึ้น เพื่อกดดันให้มีการยกเลิกบางรายการที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีนั้น ตนเห็นว่ามีเหตุผลที่เล็กน้อยมาก
นายเจะอามิง กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าภายหลังที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ. รับผิดชอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเบาบางลง การข่าวก็เริ่มจะอ่อนกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง 11 จุดนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะพื้นที่ชุมชนทางเศรษฐกิจก็มีความเสี่ยงด้วย เช่น ศูนย์การค้าต่างๆ ทั้งนี้ตนเกรงว่า อนาคตอาจมีการยุยงให้กลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มคนเสื้อเหลืองทะเลาะกัน เพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และช่วงชิงผลประโยชน์
ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ให้มีการเฝ้าระวังการก่อเหตุ เนื่องจากจะเป็นเดือนกันยายนอันตราย นายเจะอามิง กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้รอจังหวะเวลาอยู่แล้ว รัฐบาลต้องมีการเฝ้าระวังตลอด24 ชั่วโมง ต้องไม่หละหลวมเด็ดขาด เหมือนกับที่ตนได้เสนอมาตลอดว่า อย่าเพิ่งมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง และกฎหมายฉบับนี้เปรียบเสมือนไม้กันหมา จะเป็นเครื่องมือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้
เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!! กระทู้เด็ดน่าแชร์