นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงวันที่ 31 สิงหาคม
กรณี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปเยือนประเทศมอนเตเนโกรว่า แม้การเดินทางครั้งนี้นายกษิตอ้างว่าเป็นการเดินทางไปคุยเรื่องทั่วไป ไม่มีกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คงไม่มีใครเชื่อ คงหวังที่จะให้รัฐบาลมอนเตเนโกร ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเรื่องนี้ นายกฯและรัฐบาลมอนเตเนโกร ยืนยันว่าจะไม่ส่งกลับแน่นอน อีกทั้งวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประชาชนและถือพาสปอร์ตมอนเตเนโกร
ทั้งนี้ปฏิบัติการณ์ไล่ล่าอดีตนายกฯอย่างสุดขอบฟ้ายังมีต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนจาก นายพนิช วิกิตเศรษฐ์
เพราะมาเป็นส.ส.ประชาธิปัตย์แล้ว มาเป็นนายกษิต ถามว่าเป็นธรรมหรือไม่กับการไล่ล่าคนๆเดียว ต้องนำภาษีคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ และสถานทูตต่างๆ ตราบใดที่ยังมีการไล่ล่า ทัศนคติผู้นำของไทยเรื่องความปรองดอง คงยังไม่เกิดขึ้น
นายนพดลกล่าวว่า กรณีกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ป่วยเป็นมะเร็งหรือสื่อบางสำนักระบุถึงขั้นว่า ตายไปแล้ว นั้นยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
ท่านยังสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็ง ในช่วงที่ท่านทวิตข้อความมาก็บอกว่าป่วย ไม่ทวิตมาก็บอกว่าป่วย เลยไม่รู้จะเอาอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณนิ่งเงียบหายไปไม่ได้ป่วย แต่เพราะท่านอยากให้ความปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง และจะได้ไม่ถูกนำมาเป็นข้ออ้างว่าเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา การเดินทางไปต่างประเทศมี2อย่าง คือ 1.ไปพบปะผู้นำประเทศต่างๆ 2.เพื่อหาโอกาสการค้า การลงทุน
ทั้งนี้ นายนพดลกล่าวพร้อมกับแสดงสำเนาภาพสี พ.ต.ท.ทักษิณ 2ภาพ ว่า ภาพแรกเป็นการเดินทางเมื่อเร็วๆนี้ เพียงแต่ไม่ได้ระบุวัน เวลาของภาพ แต่เป็นภาพจริง ไม่มีการตัดต่อ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปพบนายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้
“พ.ต.ท.ทักษิณไปพบ นายเนลสัน แมนเดลาเพราะเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องความปรองดอง ในอดีตแอฟริกาใต้มีการเลือกปฏิบัติ นายเนลสัน ได้ต่อสู้เรื่องการเหยียดสีผิวมาโดยตลอด ท่านไปพบเพื่อสร้างความปรองดอง เพื่อที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งประเทศเขาเน้นเรื่องความปรองดองมากกว่าไล่ล่า แต่ไทยตอนนี้ปรองดองน้อยไปหน่อย การแก้แค้นเยอะไป ดังนั้นเราต้องหันมาปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้มีอำนาจในประเทศเพื่อให้เกิดความปรองดองอย่างแท้จริง”นายนพดลกล่าว