นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าววันที่ 23 สิงหาคมว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปี 2553
ขยายตัวได้ 9.1% สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล และการปรับตัวของภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปในเรื่อง การทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีประชาชนได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน โดยรัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงให้เกิดความเท่าเทียมมากขึ้น
สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง คาดว่าจะขยายตัวได้น้อยกว่าในครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ถึง 10 %
ขณะที่ แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ยืนยันว่าค่าเงินบาทของไทยไม่ได้แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาค เพราะค่าเงินของมาเลเซียก็แข็งค่ากว่าไทย โดยค่าเงินบาทของไทยยังเคลื่อนไหวไปตามภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่ก็ค่าเงินแข็งค่าขึ้น เนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง
"ค่าเงินบาทแข็งค่ามาเป็นปีแล้ว และยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกมากนัก เพราะสกุลเงินอื่นๆ ก็แข็งค่าขึ้นด้วย ประเด็นที่น่าจับตาก็คือ กำลังซื้อของประเทศคู่ค้า ถ้าเศรษฐกิจประเทศเหล่านั้นชะลอ จะกระทบส่งออกของเรามากกว่า ทั้งนี้ ครึ่งปีหลังความเสี่ยงจากภายนอกมีมากกว่าภายใน"
ทางด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เดิมคลังคาดการณ์ว่า จีดีพีไตรมาส 2 น่าจะขยายตัวได้ราว 8% และทั้งปีน่าจะขยายตัว 6